จากเมืองเก่าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เราก็ขับรถต่อมายังฝั่งตะวันตกของอิตาลี เพื่อเข้าสู่เส้นทางที่เขาว่าเป็นหนึ่งในถนนที่สวยที่สุดในโลก คุ้มกับที่เครียด (กับถนน) และไม่ผิดหวังครับ
- ตอนที่ 1 เมืองเก่า เมืองมรดกโลก
- ตอนที่ 2 ริมชายฝั่ง Amalfi
- ตอนที่ 3 Pompei เมืองใต้ลาวา
สารบัญ
Amalfi Coast
ชายฝั่งอะมาลฟี่ เป็นเส้นทางเลียบอ่าว Salerno ของทะเล Tyrrhenian รวมระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร เริ่มตั้งแต่เมือง Vietri sul Mare ไปจนถึง Positano โดยเมืองยอดนิยมที่เป็นจุดแวะของนักท่องเที่ยว คือ Amalfi, Ravello และ Positano ถ้ามีเวลาหน่อยเมืองอื่นๆ ในแถบนี้ก็สวยไม่แพ้กันครับ ถ้าใครได้ไปก็เอามาเล่าสู่กันฟังได้ครับ ผมยังไม่มีโอกาสได้ไป
ถนนพันโค้ง
ถนนคดเคี้ยวหลายพันโค้ง (เดาเอาครับ ไม่ได้นับ 55) หลายโค้งเป็นโค้งหักศอก (ลองดูรูปข้างล่างช่วยจินตนาการ) ถนนบางช่วงโดยเฉพาะใกล้เขตเมืองจะแคบแบบรถสองคันสวนกันได้พอดี แถมยังมีรถจอดข้างทางอีก ทำให้ขับค่อนข้างยาก และต้องระวังรถสวนด้วยครับ บางทีชาวท้องถิ่นเขาคุ้นกับถนนเลยขับเร็ว เวลาโค้งทีก็กินเลนเราเข้ามา เบรคแทบไม่ทัน
Tips:
- เมืองน่าแวะ >> แนะนำเมืองยอดนิยม Ravello, Amalfi และ Positano ถ้าจะพักแถบนี้อาจเลือกเมืองใกล้เคียงราคาจะถูกครับ แต่ถ้าจะเลือกพักใน 3 เมืองนี้ แนะนำ Amalfi ครับ เพราะไม่พลุกพล่านมาก มีร้านให้เดินเล่นพอสมควร ถ้าชอบความคึกคักหน่อย (ผมเรียกว่าพลุกพล่าน 555) ก็เลือก Positano ครับ คนเยอะมาก แต่ผมไม่ชอบคนเยอะและที่จอดรถก็แพงกว่าด้วย
- อย่าลืมยาแก้เมารถ >> ใครเมารถง่าย อย่าลืมกินยาแก้เมารถ “ป้องกัน” ไปก่อนครับ
- ดูทางดีๆ ไม่เสียเวลา >> เวลาขับรถ ถ้ามีทางแยกหรือทางเบี่ยง ต้องดูให้ดีครับ ว่าเขาให้เบี่ยงไปเส้นไหน เบี่ยงผิดชีวิตเปลี่ยนครับ เพราะที่กลับรถหายากมาก ต้องหากลับรถตรงที่ถนนกว้างหน่อยซึ่งอันตราย หลงทีก็ขับยาวๆ ไปครับ เสียเวลามาก
แต่เที่ยวตามชายฝั่งนอกจากขับรถเอง ยังสามารถเดินทางได้โดยใช้รถบัสได้ครับ วิ่งระหว่างเมืองเป็นของ SITA bus หรือมีรถ Hop-on, Hop-off เช่นเดียวกัน หรือไม่ก็นั่งเรือเดินทางระหว่างเมืองก็ได้ครับ ได้วิวสวยจากนอกฝั่ง น่าจะสวยไปอีกแบบ
Amalfi
Tips:
- ถ้าจองโรงแรมตามแนวถนนเดินเที่ยวตามเส้นประสีน้ำเงินในแผนที่ด้านล่าง (Via Duca Monsone) จะไม่มีที่จอดรถของโรงแรมครับ ต้องจอดที่ที่จอดรถของเอกชนที่แนะนำ คือ Laudano Gianluca (วงกลมสีแดง) แต่ถนนบางช่วงรถวิ่งได้เลนเดียว พอเลี้ยวขึ้นไปจะมีไฟแดง ให้หยุดรอรถสวนลงมาก่อนครับ พอเขียวแล้วค่อยขึ้นไป เขาจะปล่อยที่ละฝั่ง แนะนำว่าก่อนจะถึงทางเลี้ยวให้โทรบอกโรงแรมก่อน เขาอาจจะเดินลงมารอรับ
- ถ้าไม่ได้พักแถวนี้ จอดรถด้านล่างตรงจตุรัส หรือที่จอดรถเอกชนอื่นๆ ก็ได้ครับ ลองหาดู
- โรงแรมในแนวเส้นประสีน้ำเงิน มักจะไม่มีลิฟท์ครับ หรือต้องเดินขึ้นบันไดกว่าจะถึงโรงแรม ถ้ามีกระเป๋าใหญ่ก็เหนื่อยหน่อยครับ หรือจะแบ่งกระเป๋าก็ได้ (ถ้าทิ้งกระเป๋าใหญ่ในรถก็ระวังนิดครับ)
ถนนทางขึ้นค่อนข้างเล็ก (Via Duca Monsone)
Amalfi Cathedral
บรรยากาศรอบๆ ถนนคนเดิน (Via Duca Monsone)
ชายหาดยามค่ำคืน
ชายหาดยามเช้า
จตุรัสกลางเมือง
Ravello
Tips:
- เมืองนี้ไม่มีอะไรมาก แต่มีจุดชมวิวมุมสูงของ Amalfi Coast ที่สวยที่สุดจุดหนึ่งครับ โดยอาจไม่ต้องเข้า Villa Rufolo ก็ได้ครับ เพราะมีทางเดินไปจุดชมวิว (ฟรี) ด้านข้างวิลล่าตามแผนที่ด้านล่าง ผมว่าวิวไม่ได้ต่างกัน ยกเว้นอยากไปเห็นสวนสวยๆ หรืออยากเข้าพิพิธภัณฑ์ในวิลล่าด้วย (ค่าเข้า 7 ยูโร)
- พิกัดที่จอดรถ ใส่คำว่า “Rampa Gambardella, 35” ใน google map ครับ
Ravello Cathedral
ภายในโบสถ์วันนั้นมีงานแต่งงานพอดี เลยเข้าไม่ได้
ร้านขายของ ร้านอาหารเล็กๆ รอบจตุรัส
ด้านหน้าของ Villa Rufolo
วิวของชายฝั่งแถบเมือง Minori (จุดชมวิวฟรีให้เดินผ่านอุโมงค์ตรงกลางรูปด้านบนไปครับ)
วิวต้นไม้ใน Villa Rufolo ที่เห็นในโปสการ์ด แต่ถ่ายจากด้านนอกเพราะผมไม่ได้เข้าไป
Prositano
Tips:
- ความเห็นส่วนตัว ผมว่าเมืองนี้คึกคักมาก (มากไปหน่อย) ร้านค้าเยอะ คนก็เยอะมากครับ ที่จอดรถแพง แนะนำให้แวะมาเที่ยวเฉยๆ แล้วไปพักเมืองอื่นใกล้ๆ ดีกว่า อีกอย่างครับ โรงแรมที่อยู่ด้านบนของเมือง ถ้าพักนี่ ต้องจอดรถและลาก+ยกกระเป๋าขึ้นลงบันไดพอสมควรกว่าจะถึงที่พักครับ เห็นสภาพฝรั่งที่เดินผ่านแล้ว แนะนำว่าไม่ควรครับ น่าจะเหนื่อยมาก ไม่งั้นก็ต้องแบ่งกระเป๋าเอา
- ดู google map แล้วงงครับ เพราะระยะทางที่บอกไม่ใช่ทางราบเพราะมันเป็นเมืองบนภูเขา ถึงจะแค่กิโลเดียวแต่เป็นบันไดหรือเนินเกือบทั้งหมด เดินกันลิ้นห้อยล่ะครับ ถ้าขับรถให้ขับมาตามทางเรื่อยๆ แล้วหาที่จอดรถที่ใกล้ชายหาด เดินลงนิดเดียวก็ถึง แนะนำให้จอดที่ Russo Parking ครับ (วงกลมสีแดงในแผนที่ด้านล่าง) ค้นใน google map ด้วยคำว่า “Via dei Mulini, 5”
วงกลมสีดำ คือที่จอดที่ผมไปจอดรอบแรก ระยะทางมาชายหาดที่เป็นแหล่งเดินเที่ยว (วงเส้นประสีน้ำเงิน) ไม่ถึงกิโลครับ แต่เป็นทางลงเนินและบันไดเทียบได้กับตึก 7-8 ชั้นได้ ตอนขึ้นคงแย่แน่ เลยย้ายกันมาจอดอีกที่นึงอย่างที่บอกไว้ด้านบน
วิวอาคารบ้านเรือนเรียงรายกันตามแนวเขา มุมไหนก็สวย
บรรยากาศของเมือง
Chiesa di Santa Maria Assunta โบสถ์ประจำเมือง
ชายหาด คนเยอะมาก มักนิยมมาอาบแดดกัน
Sorrento
Tips:
- ในตัวเมืองไม่มีอะไรมากครับ เดินเล่นครึ่งวันก็น่าจะพอ ความเห็นผมว่าเป็นเมืองแวะพักเพื่อไปที่อื่นซะมากกว่า
- แนะนำให้พักออกมาจากตัวเมืองหน่อย (วงกลมสีแดงในแผนที่ด้านล่าง) เพราะโรงแรมมีที่จอดรถฟรี และได้เดินดูวิวเมืองจากระยะไกลด้วยครับ ผมพักที่ Hotel Desiree ไม่แพง เดินไปตัวเมือง (วงกลมสีน้ำเงิน) ประมาณ 10 นาทีเท่านั้น หรือจะเลือกพักอีกด้านที่ใกล้กับท่าเรือก็ได้
- ถ้ามีเวลา มีนั่งเรือเที่ยวด้วยครับ ไม่ว่าจะนั่งเรือไป Amalfi หรือเมืองอื่นๆ ของ Amalfi Coast จะได้เห็นวิวเมืองจากนอกชายฝั่งสวยไปอีกแบบ หรือนั่งเรือข้ามไปเที่ยวเกาะ Capri ได้ครับมีที่เที่ยวและจุดชมวิวสวยๆ เช่น Blue Grotto หรือ Anacapri ผมไม่ได้ไปเสียดายอยู่เหมือนกัน
Marina Grande เวิ้งอ่าวที่มีท่าเรือ และร้านอาหารหลายร้าน
วิวเมืองมองจากด้านบน
เห็นวิวของเมือง Naple อยู่ลิบๆ และมีภูเขาไฟ Vesuvius ผู้ทำลายล้างปอมเปอีอยู่เบื้องหลัง วันนั้นเมฆเยอะเลยมองเห็นไม่ชัด
ที่นี่สวยสมคำร่ำลือจริงๆ ครับ ถ้ามีเวลาเที่ยวแบบเรื่อยๆ ไม่รีบร้อน นี่จะได้บรรยากาศมากครับ เหมาะกับการเป็นเมืองตากอากาศอย่างมาก เวลาสองวันกับแถบนี้นี่น้อยไปจริงๆ (เสียดาย) ตอนหน้าพบกับเมืองมรดกโลกที่จมอยู่ใต้ลาวาเป็นเวลานานก่อนจะถูกขุดค้นพบและได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของอิตาลีตอนใต้กันครับ