คิวชู (Kyushu) เป็นภูมิภาคหนึ่งที่อยู่ทางตอนใต้ของญี่ปุ่นครับ ไม่ค่อยโด่งดังเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวเท่าภูมิภาคอื่นๆ และสถานที่ท่องเที่ยวหลายๆ ที่ก็ยังไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนัก คราวนี้มีโอกาสลาพักร้อนประมาณ 5-6 วันช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน เลยเลือกมาที่คิวชูตอนเหนือ เพราะน่าจะเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีพอดี ไม่พูดพร่ำทำเพลงมากครับตามมาเที่ยวกันเลยดีกว่าเพราะหลายคนคงคุ้นเคยกับการเดินทางเที่ยวในญี่ปุ่นดีอยู่แล้วหรือไม่ก็หาอ่านในรีวิวได้เยอะละ
ตอนแรกนี้พาไปที่ที่ประทับใจที่สุดก่อนแล้วกันครับ “Takachiho Gorge”
เกริ่นนำนิดหน่อย
โปรแกรมและแผนการเดินทางคร่าวๆ ตามรูปข้างล่างครับ
แต่มีที่เพิ่มเติมนิดนึงครับ คือ
- JR Kyushu Railway Pass สามารถจอง pass และจองที่นั่งรถไฟขบวนพิเศษล่วงหน้าได้เองทางออนไลน์ได้แล้วครับ (ตาม ลิงค์ นี้เลย) แล้วค่อยไปออกตั๋วที่ JR office ที่สถานี Hakata อีกที เพราะรถไฟพิเศษบางขบวนเช่น Yufuin no mori ถ้าไปจองที่ญี่ปุ่นตอนรับ JR pass อาจเต็มได้ครับ (แต่เสียค่าจองที่นั่งออนไลน์ 2,000 Yen ต่อเที่ยวนะครับ)
- เส้นทางของ Yufuin no mori ที่เขาว่าสวยมาก (ผมก็ไม่เคยเห็นเหมือนกันว่าสวยขนาดไหน) ตอนนี้ปิดครับเพราะเส้นทางไม่ดีจากฝนตกหนักเมื่อกลางปี (เส้นประในรูปด้านล่าง) ยังไม่รู้จะเปิดเมื่อไร ต้องนั่งย้อนขึ้นไปอีกทาง (เส้นสีเขียว) ทำให้ใช้เวลาเดินทางนานขึ้นเป็นชั่วโมงอยู่ครับ ติดตามข้อมูลอัพเดตเส้นทางตาม ลิงค์ นี้ครับ
- ที่พักทั้งหมดผมเลือกใกล้สถานีรถไฟเพื่อเอากระเป๋าไปไว้ก่อนออกไปเที่ยว ถ้าเมืองไหนไม่ได้พักก็ฝากกระเป๋าที่สถานีครับ ตู้ล็อคเกอร์มักจะเต็ม (เพราะมีกระเป๋าใบใหญ่) แต่ไม่ต้องห่วงครับ หาร้านแมวดำ (Kuroneko Yamato) แล้วฝากไว้ที่นั่นได้ (หรือจะให้เขาส่งไปที่โรงแรมก็ได้แล้วแต่สะดวก) ราคาใบละ 500 เยนต่อวันเท่านั้น (แต่ต้องมารับคืนก่อนร้านปิด ถามเวลาปิดเขาด้วยครับ)
- สุดท้าย…ขับรถไม่ยากครับ พวงมาลัยเหมือนบ้านเรา ที่นี่เขาขับกันใจเย็น ไม่น่ากลัว ป้ายต่างๆ ดูไม่ยาก แต่ต้องรู้ป้าย stop sign หน่อยนะครับ (ดูรูปข้างล่าง) เพราะเป็นภาษาญี่ปุ่น เห็นป้ายนี้ต้องหยุดก่อนที่จะตรงต่อหรือเลี้ยวเสมอครับ
เมือง Takachiho อยู่ทางตอนเหนือของจังหวัด Miyazaki ใกล้ๆ กับ Kumamoto ครับ ขับรถมาประมาณชั่วโมงครึ่งก็ถึงแล้ว สถานที่เที่ยวที่มีชื่อของที่นี่คือ Takachiho Gorge แล้วก็มีวัด, ศาลเจ้าใกล้ๆ ด้วย ถ้ามีเวลาก็แวะเที่ยวชมได้ครับ ทริปผมครั้งนี้ไปแค่ Takachiho Gorge ที่เดียว
ข้อมูลการเดินทางดูคร่าวๆ ตามรูปด้านล่างหรือเข้า ลิงค์ นี้ครับ ผมเลือกวิธีขับรถเพราะมีเวลาไม่มาก โดยออกจาก Kumamoto ตอนเช้าและเดินทางต่อไป Kurokawa Onsen ในตอนบ่ายแก่ๆ
มีรถบัสจาก Kumamoto วันละ 2 รอบ โดยปลายทางอยู่ที่ Nobeoka ให้ลงป้าย Takachiho bus center เดินทางประมาณ 3 ชม. (ถ้ารวมราคาไปกลับ+ความรวดเร็ว (ถ้าขับรถเดินทาง 1 ชั่วโมงครึ่ง)+ความสะดวกแล้ว ขับรถน่าจะคุ้มกว่า)
Takachiho Gorge
Takachiho Gorge เป็นช่องเขาที่เกิดจากการไหลของลาวาจากการระเบิดของภูเขาไฟ Aso ผนังของหน้าผาสีเทาดำบวกกับริ้วลายสวยงามตัดกับสีน้ำเงินอมเขียวของแม่น้ำ Gokase ที่ไหลผ่าน ร่วมกับเสียงของสายน้ำตกเล็กๆ ของน้ำตก Manai ทำให้ที่นี่เป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ แต่ยังเป็นที่รู้จักกันน้อยเมื่อเทียบกับที่เที่ยวอื่นๆ ของญี่ปุ่น
ที่นี่มาได้ทุกฤดูครับ ถ้าขับรถมา มีที่จอดรถใกล้ๆ 2 ที่ตามรูปด้านบนเลย ถ้าจอดใกล้จุดเช่าเรือจะแพงกว่า (500 yen ทั้งวัน)
มีอะไรให้ทำบ้าง?
- เดินเที่ยว ดูวิวจากมุมสูง ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตรเท่านั้นครับ และยังมีร้านที่แนะนำให้แวะคือร้านราเม็งรางไม้ไผ่อันมีชื่อ (แต่ผมไม่ได้แวะ เพราะเวลาไม่พอ)
- เช่าเรือพาย (ไม่ควรพลาด) ในสนนราคา 2,000 Yen ต่อลำต่อ 30 นาที (1 ลำนั่งได้ 3-4 คน) ถ้าไปก่อนเที่ยงจะรอคิวไม่ค่อยนานครับ แนะนำว่าให้รีบไปรับคิวที่จุดเช่าเรือก่อนเพราะถ้าหลังเที่ยงไปจะรอนานเป็นชั่วโมง (ผมไปประมาณเที่ยงต้องรอประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง แอบได้ยินอีกคนที่มาบ่ายครึ่ง เขาต้องรอประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง) รับบัตรคิวแล้วค่อยมาหาอะไรกินและเดินถ่ายรูป พอถึงเวลา (เขาจะระบุเวลาคร่าวๆ ไว้ในบัตรคิว) ก็ค่อยเดินลงไปยังจุดรอเรือ
เวลาเช่าเรือ ประมาณ 8.30-16.30 น. (เวลาเปลี่ยนแปลงบ้างขึ้นกับฤดูและคิวรอเรือ บางวันฝนตกอากาศไม่ดี ก็งดบริการเช่าเรือครับ) เช็คเวลาแน่นอนได้ที่ ลิงค์ นี้
พายเรือไม่เป็นทำยังไง? ไม่ต้องห่วงครับ มันจะไปได้เอง 555 อาจจะทุลักทุเลหน่อย แต่ไม่ยากเกินไป บางช่วงอาจไหลๆ ไปติดกับลำอื่นเป็นแพ ก็ใจเย็นๆ ค่อยๆ แงะออกจากกัน อย่างในรูปข้างล่างนี่เขาไม่ได้จอดดูน้ำตกกันนะครับ เขากำลังแงะเรือออกจากกันอยู่ (ฮา)
ปลอดภัยไหม? เรือมั่นคงครับ สะอาด มีเสื้อชูชีพเล็กๆ ให้ใส่ น้ำนิ่ง (แต่ไหลลึกเท่าไรนี่ไม่แน่ใจ น่าจะลึกเกินความยาวของไม้พาย เพราะลองยันดู มันยันไม่ถึงพื้น)
สัมผัสแรกหลังจากลงจากรถ เริ่มเห็นความตระการตา ช่องเขาแคบๆ มีแม่น้ำสีน้ำเงินเขียวไหลผ่าน ตัดกับต้นไม้สีเขียว สีส้มในฤดูใบไม้ร่วงมันสุดยอดจริงๆ ครับ แต่ความสวยยังไม่หยุดอยู่แค่นี้ เหมือนที่ผู้หญิงชอบบอกว่า ผู้หญิงอย่าหยุดสวย…ดังนั้นอย่าหยุดเดินแค่นี้ครับ เดินต่อไป ของดีอยู่ปลายทาง
ผนังของหินเป็นริ้วลายสวยมาก
เดินมาได้ซัก 400-500 เมตรก็เริ่มเห็นนักท่องเที่ยวพายเรือแล้ว จุดนี้เป็นจุดปลายทางของการพายเรือ เขามีเชือกกั้นไว้ไม่ให้พายเกินจุดนี้ไป
คนเยอะมากครับ ส่วนใหญ่มาเป็นกลุ่มทัวร์ ถ้ามากับทัวร์ส่วนใหญ่จะได้แค่เดินดู ไม่ได้พายเรือ
และแล้ว….ก็เห็นแล้วครับ น้ำตก Manai
เดินต่อมามีสวนเล็กๆ เคยเป็นที่ตั้งของศาลเจ้า
ใกล้สุดทางเดิน จากสะพานมองเห็นจุดเช่าเรือแล้ว บริเวณนี้มีขายของ ขายอาหารด้วย อย่าลืมรีบไปรับบัตรคิวเรือก่อน (ถ้าจะพายเรือ) แล้วค่อยมานั่งกินกลางวัน เดินเล่น ถ่ายรูปเล่นแถวสะพานนี้ได้ครับ
มุมมหาชน ถ้าใบไม้เปลี่ยนสีมากกว่านี้คงสวยกว่านี้มาก
เมื่อได้เวลาก็ลงมารอเรือกันเลยครับ ดูมั่วๆ แต่เขาก็เรียกเป็นเบอร์คิวนะครับ…แต่เรียกเป็นภาษาญี่ปุ่น
วิวตอนพายเรือนี่ยิ่งกว่าตอนเดินดูด้านบนครับ สวยมาก ถึงพายวนไปวนมาก็ไม่เบื่อ ถือซะว่าดูวิวไปด้วย
พอเริ่มใกล้นำ้ตกแล้วเนี่ยลุ้นมากเพราะกลัวจะได้อาบน้ำที่ Takachiho ต้องพยายามพายหลบชิดอีกมุม ตรงนี้เลยเป็นที่ที่เรือทั้งหลายมากองติดแหง่กกันอยู่ 555 ต้องค่อยๆ แคะออกจากกัน
จากตรงนี้ยังพายต่อไปได้ครับ ผนังหน้าผาจะเป็นแท่งเหลี่ยมๆ เหลือบกัน แต่ผมไปได้แค่นี้เพราะจะหมดเวลาแล้ว (เสียเวลาติดกับเรือลำอื่นไปเยอะ แหะๆ) เลยต้องพายกลับ
มาที่นี่ไม่ผิดหวังครับ วิวสวย กิจกรรมทำให้เที่ยวสนุกมากขึ้น การบริหารจัดการดี แนะนำให้แวะมาครับ
ส่งคืนเรือก็ขับรถออกจากที่นี่ครับ มุ่งหน้าไปพักร่างโดยการแช่ออนเซ็นต่อที่เมืองแห่งออนเซ็นของภูมิภาคคิวชู “Kurokawa Onsen” ติดตามตอนหน้าคร้าบบบ 🙂