“ใครๆ ก็บินกับบางกอกแอร์เวย์ (Bangkok Airways)”
หลายคนอาจเกิดคำถามว่าสายการบินบูทีค (Boutique) สายนี้มีอะไรดีกว่าสายการบินอื่นๆ ทำไมถึงมีแต่คนติดใจต้องกลับไปใช้บริการกันอยู่ตลอด วันนี้เรามี 5 เหตุผลดีๆ ที่ทำให้ต้องใช้บริการสายการบินบางกอกแอร์เวย์ (Bangkok Airways) มาฝากกัน
แต่ก่อนอื่นก็ต้องไปรู้จักบางกอกแอร์เวย์ (Bangkok Airways) กันแบบคร่าวๆ ก่อน บางกอกแอร์เวย์ (Bangkok Airways) เป็นสายการบินเอกชนแห่งแรกของประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2511 สีธีมคือสีฟ้าและจุดยืนหลักคือการเป็นเอเชียบูทีคแอร์ไลน์ และความประทับใจแห่งเอเชีย สายการบินแห่งนี้โดดเด่นเรื่องการให้บริการแบบทุกระดับประทับใจและการบุกเบิกเส้นทางการบินใหม่ๆ 5 เหตุผลดีๆ ที่ทำให้ต้องใช้บริการสายการบินบางกอกแอร์เวย์ (Bangkok Airways) จะมีอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลย
สารบัญ
1. เป็นสายการบินฟูลเซอร์วิส
ขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/FlyBangkokAir/
บางกอกแอร์เวย์ (Bangkok Airways) เป็นสายการบินฟูลเซอร์วิสที่รวมการบริการทุกอย่างไว้ครบถ้วนในราคาตั๋ว ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักกระเป๋าที่สามารถโหลดไว้ใต้เครื่องได้ถึง 20 กิโลกรัม ที่นั่งที่มีขนาดกว้างขวาง สะดวกสบาย เปิดให้เลือกตั้งแต่ตอนทำการจองตั๋ว จะนั่งริมทางเดินหรือนั่งริมหน้าต่างก็เลือกได้ตามใจชอบระบบความบันเทิงพร้อมหน้าจอส่วนตัวบนเครื่องที่มีไว้ให้ดูหนัง ฟังเพลงหรือเล่นเกมส์แบบไม่มีเบื่อ นอกจากนี้ไม่ว่าจะเดินทางระยะใกล้หรือระยะไกลก็มีอาหารเสิร์ฟให้ทานกันร้อนๆ ทุกไฟลท์อีกด้วย
2. สามารถใช้บริการบูทีคเลานจ์หรือคลับเลานจ์ได้
ขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/FlyBangkokAir/
อีกหนึ่งความฟินเว่อร์ของการเป็นผู้โดยสารสายการบินบางกอกแอร์เวย์ (Bangkok Airways) ก็คือสิทธิพิเศษที่สามารถใช้บริการ บูทีคเลาจน์ หรือห้องรับรองระหว่างรอขึ้นเครื่องได้ ซึ่งสิทธินี้ไม่ได้มีแค่เฉพาะผู้โดยสารชั้นธุรกิจเท่านั้น ห้องรับรองของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ (Bangkok Airways) เป็นห้องรับรองแบบครบวงจรซึ่งมีอยู่ในทุกสนามบิน ภายในมีของว่างและเครื่องดื่ม มุมอินเตอร์เน็ต บริการ Free – Wifi และมุมเด็กเล่นไว้ให้บริการ บอกเลยว่าสะดวกสบายและมีระดับสุดๆ
สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางด้วยชั้นธุรกิจก็จะมี ห้องบลูริบบอน คลับเลาจน์ เป็นห้องรับรองแยกต่างหาก บริการที่เพิ่มมาจากบูทีคเลานจ์คือ ห้องอาบน้ำ ห้องนวดเพื่อผ่อนคลายและห้องประชุมส่วนตัวที่สามารถใช้เป็นห้องประชุมขนาดเล็กได้ด้วย แค่นี้ก็การันตีได้แล้วว่าบินกับสายการบินบางกอกแอร์เวย์ (Bangkok Airways) ได้บริการทุกระดับประทับใจอย่างแน่นอน
3. สิทธิพิเศษในการรับของสมนาคุณหรือส่วนลดจากร้านค้าชั้นนำต่างๆ
ขอบคุณภาพจาก http://www.bangkokair.com
สายการบินบางกอกแอร์เวย์ (Bangkok Airways) เป็นพันธมิตรกับธุรกิจหลายส่วนธุรกิจ ซึ่งผู้โดยสารก็จะได้รับประโยชน์ในส่วนนี้ไปด้วยเพราะเพียงแค่คุณแสดงบัตรผ่านขึ้นเครื่อง (Boarding Pass) หรือบัตรสมาชิกฟลายเออร์โบนัส บัตรสมาชิกของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ (Bangkok Airways) กับร้านอาหาร โรงแรม สปาและร้านค้าแนวไลฟ์สไตล์ชั้นนำต่างๆ ที่ร่วมรายการก็จะมีสิทธิ์ได้รับของสมนาคุณหรือส่วนลดสูงสุดถึง 50%แล้ว ตัวอย่างร้านที่เข้าร่วมรายการ ได้แก่ ร้านอาหารเสวย ห้องอาหารริวา เซอร์ยา แบงคอก สปาเซ็นวารีในเครือโรงแรมเซนทารา ร้านบาธแอนด์บลูม ห้างเอ็มโพเรี่ยมและห้างเอ็มควอเทียร์ เป็นต้น
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนของสิทธิพิเศษสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bangkokair.com/beyondflying
4. มีสนามบินเอกชนเป็นของตัวเอง
สายการบินบางกอกแอร์เวย์ (Bangkok Airways) เป็นสายการบินที่ลงทุนสร้างและพัฒนาสนามบินเอกชนเพื่อบุกเบิกเส้นทางการบินในประเทศไทยอยู่ถึง 3 แห่งด้วยกัน คือ สนามบินสมุย สนามบินสุโขทัย และสนามบินตราด ซึ่งทั้งสามสนามบินก็ได้รับการก่อสร้างและออกแบบตกแต่งออกมาได้อย่างสวยงามและกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม เช่น อาคารผู้โดยสารของสนามบินสมุยสร้างด้วยวัสดุที่เป็นไม้ต้นมะพร้าว ในขณะที่อาคารผู้โดยสารของสนามบินสุโขทัยสร้างเป็นลักษณะทรงไทยตามศิลปะสุโขทัยโบราณ ซึ่งทั้งสองที่ได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่นจากหลายๆ หน่วยงาน
5. เปิดเส้นทางบินใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา
สายการบินบางกอกแอร์เวย์ (Bangkok Airways) เป็นสายการบินที่ไม่หยุดการพัฒนาเรื่องบุกเบิกเส้นทางบินเพราะมีการเปิดเส้นทางบินใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ซึ่งทุกเส้นทางล้วนแล้วแต่เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจ สร้างความสะดวกสบายและสร้างตัวเลือกการเดินทางให้ผู้โดยสารมากขึ้น สำหรับเส้นทางใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดไปก็คือ เส้นทางบินกรุงเทพ – เกาะฟู้โกว๊ก เกาะสวรรค์ของเวียดนาม โดยบางกอกแอร์เวย์ (Bangkok Airways) เป็นสายการบินแรกที่มีให้บริการบินตรงไปที่เกาะนี้
เห็นข้อดีในการใช้บริการสายการบินบางกอกแอร์เวย์ (Bangkok Airways) กันไปแล้วก็อย่าลืมลองหาโอกาสไปใช้บริการกันดูสักครั้ง
สำหรับคนที่กำลังจะเลือกจองสายการบินบางกอกแอร์เวย์ (Bangkok Airways) เราก็มีทริคดีๆ ในการจองแบบง่ายที่สุดแถมได้ราคาดีที่สุดมาฝากกันด้วย เพียงเลือกจองกับ Traveloka รับรองเลยว่าเป็นช่องทางการจองที่ง่าย ไม่ต้องมานั่งคำนวณภาษีเพิ่มเติม เห็นราคาตั๋วปุ๊บก็ตัดสินใจซื้อปั๊บได้ทันที ถ้าใครยังไม่เห็นภาพก็ตามไปดูกันเลย
เริ่มต้นจากการเข้าไปที่เว็บไซต์ Traveloka และเว็บไซต์สายการบินบางกอกแอร์เวย์ (Bangkok Airways) เพื่อเปรียบเทียบราคา ในตัวอย่างนี้เราเลือกจุดหมายปลายทางเป็นภูเก็ต วันออกเดินทาง 19 กุมภาพันธ์ วันเดินทางกลับ 21 กุมภาพันธ์ 2018 จำนวนผู้โดยสาร 1 คน ชั้น Economy ทั้งสองเว็บไซต์
จากนั้นราคาก็จะขึ้นมาให้เห็น หน้าเว็บไซต์ของ Traveloka โชว์ราคาขาไปไฟลท์รอบ 06.20 น. อยู่ที่ 1,593.23 และราคาขากลับไฟลท์รอบ 15.50 น. อยู่ที่ 2,689.77 บาท รวมราคาไป – กลับ คือ 4,280.62 บาทต่อคน
ในขณะที่ หน้าเว็บไซต์ของบางกอกแอร์เวย์ (Bangkok Airways) โชว์ราคาขาไปไฟลท์เดียวกันอยู่ที่ 1,500 บาท ขากลับไฟลท์เดียวกันอยู่ที่ 2,590 บาท ซึ่งถ้าดูเผินๆ ก็จะเห็นว่าราคาถูกกว่า Traveloka แต่พอกดเลือกไฟลท์จริงๆ ก็ มีบวกค่าภาษีเพิ่มขึ้นมาอีก 200 บาท ราคารวมจึงอยู่ที่ 4,290 บาท ในขณะที่ราคาสุดท้ายของ Traveloka อยู่ที่ 4,280.62 บาทเท่านั้น
ราคารวมสุดท้ายของเว็บไซต์บางกอกแอร์เวย์ (Bangkok Airways) อยู่ที่ 4,290 บาท เพราะมีบวกค่าภาษีเพิ่มขึ้นมา ถ้าดูเผินๆ อาจจะมานั่งดีใจเก้อเพราะคิดว่าได้ไฟลท์ถูกในขณะที่ราคาสุดท้ายของ Traveloka อยู่ที่ 4,280.62 บาท ถูกกว่าและโชว์ตัวเลขจริงที่ต้องจ่ายแบบจริงใจตั้งแต่แรก
แค่นี้หลายคนคงตัดสินใจกันได้แล้วว่าจองกับ Traveloka จะได้ราคาที่ถูกกว่า ไม่ต้องมานั่งคำนวณภาษีหรือค่าธรรมเนียมให้ปวดหัวอย่างแน่นอน บินกับบางกอกแอร์เวย์ (Bangkok Airways) ครั้งหน้าก็อย่าลืมเข้าไปกดจองตั๋วเครื่องบินกับ Traveloka ก่อนออกเดินทางกัน