หลังจากเตรียมตัวกันจาก EP.1 กันแล้ว ก็ได้ฤกษ์เริ่มเดินทางกันซักที (ทิ้งห่างจาก EP. แรกมา 1 ปีถ้วน 😓 รายละเอียดก็จะเลือนลางไปตามเวลาและอายุที่มากขึ้น)
📌 โปรแกรมเที่ยวในลาดักห์นี่ ก็จะคล้าย ๆ กันทุกทัวร์ครับ จะอยู่แถวๆ เมืองเลห์ก่อนซัก 2 วัน จะได้ปรับตัวกับความสูงด้วย แล้วค่อยเดินทางต่อไปที่สูงสุดของทริปคือทะเลสาบ Pangong และ Moriri
📌 ส่วนเมือง Turtuk สุดชายแดนติดกับปากีสถาน ต้องนั่งรถนาน 5 ชั่วโมงกว่า หลายทัวร์เลยไม่ได้รวมที่นี่ไว้ ถ้าอยากไปก็แจ้งทัวร์ให้เพิ่มโปรแกรมด้วยครับ (แนะนำให้ไป โดยเฉพาะช่วงเมษายน ดอกไม้สวยมาก และวิวระหว่างทางก็สวยมากๆๆๆๆ) สามารถเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับจาก Nubra ได้
📌 ย้ำว่าถ้าใครมีอาการผิดปกติช่วงก่อนขึ้นทะเลสาบ (ซึ่งตอนนั้นอาการต่างๆ ควรจะดีขึ้นแล้ว เพราะร่างกายมักจะปรับตัวได้ในช่วง 48-72 ชั่วโมงหลังขี้นที่สูง) เช่น ยังปวดหัวมาก อ่อนเพลียมาก กินได้น้อย นอนไม่หลับ เหนื่อยมากเวลาออกแรง/ปากเขียว ให้รีบแจ้งไกด์ครับ เพื่อให้ได้รับการประเมินและดูแลอย่างทันท่วงที(ยุคโควิด หลายคนมีเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว ก็เอาติดตัวไปด้วยก็ดีครับ แต่อย่าตื่นตกใจกับตัวเลขมาก ให้ดูอาการร่วมด้วย หรือถ้ามันต่ำมากๆๆ เช่น น้อยกว่า 80% ร่วมกับมีอาการข้างต้น ทั้งที่วันหลังๆ ออกซิเจนปลายนิ้วมันควรจะขึ้นมาเกิน 90 กว่า% แล้ว ก็ต้องรีบแจ้งไกด์ครับ)
EP. 1 แล-ลาดักห์ เตรียมตัว เตรียมใจ (คลิ๊ก!)
📌 ความพิเศษของลาดักห์ คือ ภูมิประเทศหลากหลาย แต่ละโซนที่ไปก็จะเห็นวิวธรรมชาติต่าง ๆ กัน (แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นภูเขาอ่ะนะ) เลยแยกออกเป็นกระทู้ตามวิวที่เห็นละกันครับ
EP. 2 Leh and around (ประตูสู่วัฒนธรรมกลางหิมาลัย)
EP. 3 En route to Nubra (ทะเลทรายกลางเทือกเขา)
EP. 4 Turtuk in bloom-ดินแดนสุดชายขอบ
EP. 5 Tso to Tso: Pangong and Tsomoriri (ทะเลสาบกลางอ้อมกอดหิมาลัย)
สารบัญ
Leh Palace
พระราชวังเลห์ สร้างตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 17 โดยกษัตริย์ Sengge Namgyal และเป็นที่ประทับของราชวงศ์จนถึงปี ค.ศ. 1836 ปัจจุบัน ภายในจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ ตัวพระราชวังมีทั้งหมด 9 ชั้น ค่อยๆ เดินขึ้นสบายๆ ไม่เหนื่อย ที่ชั้นที่ 8 เป็นลานชมวิวเมืองเลห์ได้รอบ วัดของที่นี่มักจะถูกสร้างบนเทือกเขาทำให้เห็นวิวด้านล่างได้โดยรอบ
ชั้นบนมองเห็นวิวเมืองเลห์ล้อมรอบด้วยเทือกเขา
Shanti Stupa
Shanti Stupa หรือเจดีย์สันติภาพ เป็นเจดีย์สีขาวทรงโดม อยู่บนเนินเขา ทำให้มองเห็นได้จากตัวเมืองและจุดชมวิวอื่นๆ ในระยะไกล เจดีย์นี้สร้างในปี ค.ศ. 1991 โดยพระญี่ปุ่น เป็นการฉลองครบรอบ 2,500 ปีของศาสนาพุทธ มีการบูชาพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าด้านใน เห็นวิวเมือง 360 องศา
วิวเมืองรอบๆ
วิว Shanti Stupa จากมุมอื่น ทำให้เห็นเป็นเจดีย์สีขาวบนยอดเนินเหนือเมืองเลห์ สวยมากๆ
Namgyal Tsemo Gompa
วัดนี้ (นัมเกียล เซโม) ตั้งตระหง่านอยู่บนเทือกเขาสูงด้านหลัง Leh Palace ทำให้มองเห็นจากมุมต่างๆ ได้หลายมุม สร้างในศตวรรษที่ 15 โดยกษัตริย์ Tashi Namgyal ด้านในมีพระพุทธรูปสีทอง พระศรีอริยเมตไตรย สูง 8 เมตร และมีภาพเขียนด้วยมือ ตอนไปเขาปิด เลยได้ชมแต่รอบนอก
Hemis Gompa
วัดทิเบตอายุประมาณ 450 ปี อยู่ทางใต้ของเลห์ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 45 กิโลเมตร จัดว่าเป็นวัดที่ใหญ่และรวยที่สุด ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ Padmasambhava สูง 8 เมตร และมีภาพเขียนสีสวยงาม และมีพิพิธภัณฑ์ใต้ดิน (ห้ามถ่ายรูป) นิยมมาที่นี่และ Thiksey Gompa ในวันที่เดินทางกลับจากทะเลสาบแล้วมาพักที่เลห์เป็นคืนสุดท้ายก่อนกลับ
มีพิพิธภัณฑ์ให้เดินชมด้วย (ฟรี) แต่ห้ามถ่ายรูป
Thiksey Gompa
วัดนี้ (ทิกเซย์) อยู่ทางใต้ของเลห์ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 19 กิโลเมตร เป็นวัดที่สวยงามและมีสถาปัตยกรรมโดดเด่นที่หนึ่งในลาดักห์ ภายในมีพระศรีอริยเมตไตรยที่มีขนาดใหญ่ที่สุด (สูง 15 เมตร ในอาคารสองชั้น) ในลาดักห์ประดิษฐานอยู่ในอาคารที่สร้างเพื่อเฉลิมฉลองการเสด็จมาเยือนขององค์ดาไลลามะ
พระศรีอริยเมตไตรยที่มีขนาดใหญ่ที่สุด (สูง 15 เมตร ในอาคารสองชั้น)
Leh Market
ตลาดของที่ระลึก เดินเล่นเพลิน มีคาเฟ่ให้นั่งเล่นด้วย (แต่ต้องมาก่อนมืด ไม่งั้นร้านปิดก่อน ลองหาข้อมูลดูครับ ผมไม่ได้เข้า)
ปิดท้ายด้วยวิวในเมืองเล็กน้อย
จุดสนใจแถบเมืองเลห์นี้ ส่วนใหญ่จะเป็นวัด สถานที่สำคัญทางศาสนา ที่ยังคงอนุรักษ์ทั้งสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้ได้เป็นอย่างดี รอบหน้าเราจะเริ่มออกนอกเมืองไปดูภูมิประเทศอื่น ๆ กันต่อครับ