เมื่อก่อน…ผมคนนึงแหละ ที่ว่ายาก
และก็กลัวมากครับ ตอนที่จะต้องเริ่มขับ แต่ถ้าไม่ขับ ก็จะไม่ได้เที่ยว ก็อาศัยดูๆ เขาเอา ตอนแปะนั่งไปกับคนอื่น ว่ากฎบ้านเขาเป็นยังไงบ้าง พอมั่นใจก็เริ่มเลยครับ กฎจราจรสามารถปรับใช้ได้กับเมืองอื่นๆ ด้วยครับ เพราะส่วนใหญ่ก็เป็นหลักสากล
สารบัญ
ประโยชน์ของการขับรถเที่ยว
ได้ชมวิวงามๆ ที่บางครั้งนั่งรถบัส หรือรถไฟ อาจไม่ได้เห็น (แต่บางทีนั่งรถไฟอาจได้วิวสวยกว่าก็ได้ครับ) วิวไหนสวยๆ อยากแวะถ่ายรูปก็ได้ (แต่ห้ามแวะสุ่มสี่สุ่มห้านะครับ ถ้าไม่มีที่จอดให้แวะ ห้ามจอดนะครับ โดนจับปรับจริงครับ)
หลายที่ถ้า ไม่มีรถ อาจไม่ได้ไปหรือไปลำบากครับ
แต่ใช่ว่า ขับรถจะดีเสมอไป บางที่ไปกับ local tour ก็สะดวกกว่าครับ
Tips เล็กๆ น้อยๆ ที่พอมาเล่าสู่กันฟังได้ เผื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่รักการท่องเที่ยวแล้วอยากจะลองขับรถเอง (หรือไม่อยาก แต่บางที่เที่ยวก็ต้องขับ ถ้าไม่มีเพื่อนให้แปะไปด้วย)
สิ่งที่ต้องใช้แน่นอนคือ ใบขับขี่สากล
ทำง่ายๆ ที่กรมขนส่ง 500 บาท (อายุ 1 ปี) ได้เร็วกระชับฉับไว แต่อย่าลืมเอาใบขับขี่ตัวจริงที่เป็นบัตรแข็งไปด้วยนะครับ บางทีเขาขอดูเหมือนกัน
อย่าลืมจองรถล่วงหน้า
จะได้ราคาที่ถูกกว่าเดินดุ่ยๆ เข้าไปเช่าที่เคาน์เตอร์ครับ
วางแผนให้ดี ชีวิตจะราบรื่น
สมัยนี้สะดวกมาก ไม่ต้องนั่งกางแผนที่ ส่องแว่นขยายให้งง แค่พก GPS (อาจจะเช่าที่บริษัทเช่ารถก็ได้) หรือมีอินเตอร์เนตใช้ google map ก็สะดวกดี แต่ต้องระวังถ้าไปตามอุทยานแห่งชาติ ถนนบางช่วงอาจไม่มีอินเตอร์เนต เลี้ยวผิดชีวิตอาจเปลี่ยนได้ครับ
อีกอย่างที่สำคัญคือ สภาพอากาศ ครับ ถ้าไปเที่ยวฤดูหนาวในที่ๆ มีหิมะตก ต้องศึกษาให้ดีว่าต้องเช่ารถล้อที่วิ่งบนหิมะได้หรือต้องเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมเช่นโซ่ล้อ เป็นต้น พร้อมศึกษาวิธีขับให้ดี เพราะลื่นและอันตรายถ้าเบรคแรงๆ ได้หมุนปัดอยู่บนถนน ทางที่ดีอย่าเสี่ยงครับ
พวงมาลัยซ้ายไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยาก
ขับด้านขวา รถเร็ววิ่งซ้าย รถช้าหลบขวาครับ (เอ๊ะ เหมือนเมืองไทย รถช้าแช่ขวา…ไม่ใช่ละ) ถึงแม้เราจะวิ่งเลนซ้ายด้วยความเร็วเท่ากับ speed limit แต่ถ้ามีรถเร็วกว่ามาด้านหลัง เราก็ต้องหลบครับ อย่าคิดว่าเราเร็วเท่า speed limit แล้ว ห้ามขับเร็วกว่าฉัน – ไม่ได้ครับ
เลี้ยวขวาส่วนใหญ่จะผ่านตลอดครับ ยกเว้นมีป้ายให้รอสัญญาณไฟ เลี้ยวขวาไม่เท่าไร แต่เลี้ยวซ้ายนี่ตั้งสติดีๆ ครับ ท่องไว้ ชิดขวาๆ ไม่งั้นเผลอเลี้ยวเข้าซ้ายเหมือนที่ขับบ้านเรา ได้จูบกับคันอื่นที่วิ่งสวนมาแน่ๆ
จากที่เคยขับ เวลาเราขับพวงมาลัยซ้าย เรามักจะขับเบี้ยวขวาครับ ต้องระวังมากถ้าขับขึ้นเขาและด้านขวาเป็นหน้าผา…เพราะเผลอนิดเดียว อาจได้ลงไปชมวิวที่ก้นเหวแทน หลักง่ายๆ คือขณะขับให้ตัวเราอยู่ตรงแนวของเส้นเลนด้านซ้ายไว้
อีกข้อนึง ถ้าเป็นเลนสวนกัน เส้นทึบห้ามแซง ครับ
อย่าล้อเล่นกับ speed limit
เจอจริง เจ็บจริงครับ อาจโดนเป็นหมื่นได้ ผมเคยโดนไป 300 ดอลล่าร์งามๆ
ป้าย STOP ต้องหยุดสนิท
ถึงไม่มีรถ ไม่มีคน ก็ต้องหยุดครับ ทำเนียนไหลช้าๆ ก็โดนปรับนะครับ
วงเวียนให้รถทางขวาไปก่อน
ให้รถทางขวาไปก่อนเสมอนะครับ ไม่ใช่ฉันมาเร็วฉันจะไปแบบบ้านเรา ไม่ได้ครับ ได้จูบกันกลางวงเวียนแน่
ทางม้าลาย ถึงไม่ใช่ม้าก็ต้องหยุด
หยุดให้คนข้ามก่อนเสมอครับ ถ้าเจอฝรั่งเกรียนนี่โดนตะโกนด่าเลยครับ
อย่าจอดสุ่มสี่สุ่มห้า
ดูป้ายเงื่อนไขการจอดดีๆ ว่า…
- จอดได้ไหม ~ มักจะมีข้อแม้เยอะ เช่น จอดได้บางวัน บางเวลา ได้จำกัดชั่วโมง เป็นต้น
- เสียเงินไหม ~ บางที่เป็นที่หยอดเงินประจำจุดจอด บางที่เป็นตู้รวมให้ไปจ่ายแล้วเอาบิลวางไว้หน้ารถ เป็นต้น และที่สำคัญรักษาเวลาตามที่จ่ายเงินไปครับ เกินแค่ไม่ถึง 5 นาทีก็โดนปรับมาแล้วครับ ฮือออ…
ถ้าเห็นรถติดไซเรนแว้บๆ วิ่งตาม
รีบตบไฟเลี้ยวจอดข้างทางทันทีนะครับ และนั่งรอในรถอย่างสงบ อย่าลงมาเพราะคุณตำรวจจะอุปมาว่าสู้ เดี๋ยวเรื่องหนักจะกลายเป็นหนักกว่า หลังจากเจอหน้ากันแล้ว จะใช้กลเม็ดออดอ้อนอะไรก็แล้วแต่เทคนิคส่วนบุคคลครับ ของผมภาษาก็ไม่ดี เทคนิคก็ไม่มี โดยไปเต็มๆ ตามระเบียบ ฮืออออ…
ที่สำคัญ ไม่ว่าจะยากแค่ไหน เพื่อนเดินทางที่รู้ใจ สำคัญที่สุดครับ
สุดท้าย ไม่ว่าจะขับรถที่ไหน อย่าลืมขับด้วยความระมัดระวังและเคารพกฎจราจรครับ
My spouse and I stumbled over here by a different website
and thought I might check things out. I like what I see so now i am following you.
Look forward to looking at your web page yet again.