พูดถึงกรุงวอชิงตันดีซี เมืองหลวงของสหรัฐอเมริกา คิดถึงอะไรกันบ้างครับ…ผมเคยคิดถึงแต่ Whitehouse และอาคารรัฐสภาซึ่งเป็นสถานที่สำคัญของเมืองหลวงของประเทศมหาอำนาจของโลก และเคยคิดว่าคงไม่มีอะไรเที่ยวเลย…แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ครับ
สัญลักษณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของ Washington DC ก็คือ Washington Monument อยู่ในบริเวณที่เรียกว่า Memorial Park ซึ่งใกล้ๆ กันนั้นจะมี National Mall ซึ่งเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับนักท่องเที่ยวหลายๆ คน รวมทั้งผมด้วยคือ มีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจทั้งหลายมากระจุกรวมกันอยู่ให้เดินเล่นได้ไม่เบื่อ (แต่ที่สำคัญคือเข้าฟรีต่างหากที่เป็นจุดดึงดูด 555) ถ้าจะเข้าทุกที่แบบดื่มด่ำคงต้องใช้เวลา 3 วันเป็นอย่างน้อย แต่ผมมีเวลาแค่วันเดียว แค่เดินรอบๆ นอกให้ครบทั่ว National Mall ซึ่งมีระยะทางรวมประมาณ 4 ไมล์ ก็จะเป็นลมแล้วครับ เลยเลือกเข้าเฉพาะที่สนใจหรืออยากเข้าเท่านั้น
สารบัญ
National Mall
ผมเรียกเองเล่นๆ ว่า Museum Plaza เพราะมันเป็นลานที่รวมเอาพิพิธภัณฑ์หลากหลายไว้รอบๆ อย่างที่เกริ่นไปข้างบนครับ สำหรับศูนย์กลางหรือจุดกำเนิดของพิพิธภัณฑ์เหล่านี้ ก็คือ Smithsonian institute ซึ่งก่อตั้งโดย Jame Smithson ซึ่งพื้นเพเดิมเป็นคนอังกฤษ แต่เขาได้ออกเดินทางไปหลายๆ ประเทศและสุดท้ายก็มาที่อเมริกาและได้เป็นผู้บริจาคเงินมหาศาลเพื่อก่อตั้งสถาบันนี้ขึ้นมา
แผนที่ของ National Mall และพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ตามรูปด้านล่างเลยครับ
The Smithsonian Institution Museums
พิพิธภัณฑ์และแกลลอรี่ของ Smithsonian institution มีทั้งหมด 17 แห่ง (รวม National Zoo) ในกรุงวอชิงตัน ดีซี แต่ที่อยู่รอบๆ National mall มีทั้งหมด 14 แห่ง (รวม African American History and Culture Museum ที่กำลังจะเปิดในปี 2016 นี้ด้วย) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแหล่งความรู้และสถานค้นคว้าวิจัย โดยเน้นไปยังประวัติของชนชาติอเมริกันซะเป็นส่วนใหญ่
National Museum of American History
จะแสดงเกี่ยวกับประวัติทุกอย่างของอเมริกาทั้งการทหาร สงคราม ศิลปวัฒนธรรม การเมืองและวิทยาศาสตร์ เป็นอันที่รวบรวมได้ดีและบ่งบอกความเป็นอเมริกาได้อย่างดี
ประธานาธิบดีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
National Museum of Natural History
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีคนมาเยี่ยมชมมากที่สุดในโลก อยู่ตรงข้ามกับ Smithsonian Castle พอดี คนเยอะมากทั้งนักท่องเที่ยวและกลุ่มนักเรียนมาทัศนศึกษา (จริงๆ คนเยอะทุกที่เลย) ที่นี่เป็นที่รวบรวมความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับธรรมชาติ ทั้งวิวัฒนาการของสัตว์ทุกยุคและมนุษย์ พืช แร่ธาตุและเป็นที่แสดงของ Hope Diamond ที่โด่งดัง
กระดูกและวิวัฒนาการของไดโนเสาร์ และสัตว์ต่างๆ
อียิปต์โบราณ
Hope Diamond ที่มีชื่อเสียง ที่มีประวัติยาวนานกว่าสามร้อยปี เปลี่ยนมือเจ้าของข้ามน้ำข้ามทะเล จนสุดท้ายมาอยู่ที่นี่
ความเห็นส่วนตัวคิดว่า Field Museum ที่ Chicago ใหญ่กว่าและน่าสนใจกว่า แต่อาจเป็นเพราะที่ Field Museum รวมทุกอย่างแต่ที่ Smithsonian แยกไปอยู่ตามพิพิธภัณฑ์อื่นๆ ด้วย เช่น National museum of American Indian ฯลฯ
National Gallery of Art
มี 2 ตึก (West และ East Building) ซึ่งเป็นที่แสดงผลงานศิลปะแบบคลาสสิคตึกหนึ่ง และแบบทันสมัยอีกตึกหนึ่ง – ใหญ่มาก แค่เดินผ่านๆ ไม่ได้ดูอะไรยังเหนื่อยเลย แต่ถ้าคนชอบศิลปะคงอิ่มเอมน่าดู
National Museum of the American Indian
เป็นแหล่งรวมข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของชนชาติหนึ่งที่สำคัญของประวัติศาสตร์อเมริกา ที่นี่เดินเข้าไปแต่ไม่ได้ดูอะไรเลยครับ (แวะเข้าห้องน้ำกับกินอาหารกลางวัน 555 เริ่มเดินไม่ไหวกันละ)
National Air and Space Museum
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตอนแรกว่าจะไม่เข้าเพราะเคยเข้า Museum of Flight ที่ Seattle แล้วน่าเบื่อมากเพราะไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับเครื่องบินและไม่ได้สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับการบินเลย แต่ที่นี่ทำออกมาได้น่าสนใจและเดินดูได้อย่างไม่เบื่อ
เครื่องบินของพี่น้องตระกูล Wright ผู้เริ่มต้นประวัติศาสตร์การบินของโลก
Hirshhorn Museum and Sculpture Garden
เป็นแหล่งรวบรวมงานศิลปะแบบ modern และ contemporary art จากทั่วโลก
Smithsonian Institution Building
Smithsonian Castle เป็นจุดหลักของ Smithsonian Institution จะเป็นที่รวบรวมประวัติสั้นๆ ของผู้ก่อตั้งคือ Jame Smithson (1764-1829) นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษที่เดินทางหลายที่เพื่อการวิจัยของเขาและสุดท้ายก็มาที่อเมริกาและได้เป็นผู้บริจาคและก่อตั้งสถาบันนี้ขึ้นมา
ด้านหน้าของ Castle มีรูปปั้นของ Joseph Henry ซึ่งเป็น secretary คนแรกของ Smithsonian Institution
ที่เก็บร่างของ Jame Smithson เห็นเขาบอกว่าอยู่ใต้แท่นลงไป ที่นี่มีทัวร์ภายใน castle เป็นรอบๆ ไม่เสียเงิน แต่บริจาคบำรุงได้ตามต้องการ
ด้านหลังของที่นี่จะมีสวนให้เดินเล่นพักผ่อนซึ่งมีต้นแมคโนเลียมากมาย ถ้ามาในช่วงซากุระบาน (ประมาณสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนเมษายน แต่เวลาก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละปี ขึ้นกับสภาพอากาศ) จะได้ชมความงามของแมคโนเลียที่บานสะพรั่งทั่วสวน…สวยมากๆๆๆๆๆ ครับ >>> ตามไปดู ที่นี่ เลยครับ
Freer Gallery of Art และ Arthur M. Sackler Gallery
อยู่ด้านหลังของ Smithsonian Castle เป็นแหล่งรวมงานศิลปะของเอเชียจำนวนมาก
(ภาพจาก internet)(ภาพจาก internet)
National Museum of African Art
เป็นแหล่งรวมงานศิลปะและดำเนินงานวิจัยของศิลปะแบบ African Art
(ภาพจาก internet)
African American History and Culture Museum
เป็นพิพิธภัณฑ์ใหม่ซึ่งปัจจุบันยังไม่เปิด โดยมีแผนจะเปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่กันยายน ปีนี้ (พ.ศ.2559) ซึ่งจะเป็นแหล่งรวบรวมของศิลปะ ประวัติศาสตร์ของ African American
(ภาพจาก internet)
Arts and Industries Building
ช่วงนี้ปิดปรับปรุงหลายปีเลยครับ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่เป็นอันดับสองในกลุ่มของ Smithsonian institution museums
ลัดเลาะรอบ Mall
บริเวณนี้นอกจาก National Mall และพิพิธภัณฑ์มากมายแล้ว ยังมีที่เดินเล่นซึ่งอยู่เลยมากอีกฝั่งถัดจาก Washington Monument ซึ่งเรียกรวมๆ ว่า Memorial Park บริเวณนี้ก็เป็นโซนท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง โดยเฉพาะช่วงเทศกาลดอกซากุระบานในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี
Washington Monument
เป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างเพื่อเป็นเกียรติแก่จอร์จ วอชิงตัน ประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกา มีลักษณะเป็นแท่งโอเบลิสก์ ทำด้วยหินอ่อน หินแกรนิต และหินทราย สูง 169 เมตร ใช้เวลาสร้างถึง 36 ปี (ค.ศ. 1848-1884)
Lincoln Memorial Reflecting Pool
เป็นฉากสำคัญของหนังดังอย่าง Forrest Gump
World War II Memorial
Lincoln Memorial
ประธานาธิบดีคนที่ 16 และเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นประธานาธิบดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของสหรัฐอเมริกา
Thomas Jefferson Memorial
อยู่ริม Tidal Basin เป็นประธานาธิบดีคนที่ 3 และเป็นผู้ประพันธ์ “คำประกาศอิสรภาพสหรัฐอเมริกา” ของสหรัฐอเมริกา
Martin Luther King, Jr. Memorial
เป็นนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนคนสำคัญของอเมริกา นิตยสาร TIME ยกย่องให้เขาเป็น “บุรุษแห่งปี” ในปี 1963 และในปี 1964 เขาได้เป็นชายอายุน้อยที่สุดที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ
US Capitol หรืออาคารรัฐสภา
เป็นสถานที่ประชุมของสถาบันฝ่ายนิติบัญญัติสูงสุดในระบบการปกครองของอเมริกา และถือเป็นสัญลักษณ์ของกรุงวอชิงตัน ดีซี
Whitehouse หรือ ทำเนียบขาว
เป็นที่พำนักและสถานที่ทำงานหลักของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
นี่เป็นส่วนใจกลางของกรุงวอชิงตัน ดีซี แค่นี้ก็เดินกันไม่หมดแล้วครับ ที่บริเวณรอบของของเมืองก็ยังมีที่เที่ยวอีกเยอะมากครับ ถ้าใครมีโอกาสก็อย่าลืมมาแวะเที่ยวกันนะครับ
เสียเวลากับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าซักนิด แล้วจะรู้ว่ามีอะไรมากกว่าการไปเพื่อถ่ายรูป check-in