ของที่ดูไม่มีค่า แต่จริงๆ มีค่ามหาศาล
เคยได้ยินแต่นาเกลือ เหมืองแร่ เหมืองทอง เพิ่งเคยได้ยินเหมืองเกลือก็ตอนจะได้มาโปแลนด์แล้วหาข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวนี่ล่ะครับ และติดเป็นหนึ่งในที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของโปแลนด์ซะด้วย ลองตามมาดูกันครับ
เหมืองเกลือ Wieliczka (เวียลิกซ์กา) เป็นเหมืองเกลือที่เก่าแก่ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 ในสมัยโบราณเกลือเป็นแร่ธาตุที่มีค่ามาก เป็นสินค้าที่สำคัญอย่างหนึ่งของโปแลนด์ในสมัยนั้น และยังทำการต่อเนื่องมาถึง 700 ปี (จนถึงปี 2007) ตัวเหมืองอยู่ลึกลงไปประมาณ 300 เมตร แบ่งเป็นทั้งหมด 9 ชั้น ความยาวส่วนของทางเดินในอุโมงค์ (galleries) ยาวกว่า 300 กิโลเมตร และมีโถง (chambers) มากกว่า 3,000 ห้อง ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 1978
การมาที่นี่มักเริ่มต้นกันที่เมืองหลวงเก่าของโปแลนด์ คือ เมือง Krakow (คราครูฟ) ซึ่งจาก Krakow นอกจากเที่ยวในเมืองแล้ว คนมักนิยมไปเที่ยวกันอยู่ 2 ที่หลักๆ คือ Auschwitz (ค่ายกักกันนรกนาซี) และ Salt Mine นี่เองครับ
การเดินทาง
สามารถนั่งรถไฟ (ขึ้นที่สถานี Krakow Glowny) หรือรถบัส (ขึ้นที่สถานีรถบัสซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับสถานีรถไฟนั่นเอง) ไปเองได้ครับ โดยไปรถบัสจะดูสะดวกกว่าเพราะป้ายรถบัสอยู่บริเวณหน้าเหมืองเลย
และสามารถไปซื้อตั๋วเข้าที่นั่นได้เลย (แต่ต้องมีไกด์พาเดิน ซึ่งเขาจะจัดกลุ่มให้)
แต่อีกวิธีที่สะดวกกว่าคือ ไปกับทัวร์ครับ ซึ่งมีมากมาย จะเลือกออนไลน์ไปก่อน หรือเดินหาแถวจตุรัสกลางเมือง Krakow (Rynek Glowny) ก็ได้ถ้ามีเวลาซึ่งจะถูกกว่าจองออนไลน์
ผมเลือกซื้อ ทัวร์ที่ออกจาก Krakow โดยจองออนไลน์ไปก่อน ซึ่งทัวร์ส่วนใหญ่มีรถไปรับ-ส่งที่โรงแรมเลยและรวมค่าเข้าเหมืองอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ทัวร์จะมีรอบเช้าครับ แต่บางบริษัทก็มีรอบบ่ายด้วยเช่นกัน (ประมาณบ่ายสองหรือสาม) ใช้เวลาเที่ยวครึ่งวันก็เสร็จ บางทัวร์จะรวบเอา Auschwitz เข้าในวันเดียวก็มีครับ แต่น่าจะเหนื่อยพอควร
ลิงค์ของเหมือง สำหรับรายละเอียดการจองและทัวร์ครับ มีหลายชนิด ลองคลิ๊กเข้าไปดูนะครับ แต่ที่เลือกกันส่วนใหญ่ก็คือ Tourist route
ถ้าไปเองก็เสียค่าเข้า 84 PLN (ปี 2016) คือประมาณเกือบ 800 บาท (ถ้าซื้อทัวร์ที่เริ่มจาก Krakow ส่วนใหญ่จะอยู่ราวๆ 1,200-1,500 บาท)
ผมเลือกทัวร์รอบบ่าย ซึ่งออกจาก Krakow 15.45 น. ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงก็มาถึง พอมาถึงที่นี่จะเห็นอาคารสีเหลืองๆ (Danilowicz Shaft) ซึ่งสร้างครอบตัวเหมืองไว้ด้านบน สร้างในช่วงปี 1635-1640 ทางเข้าจะมีสองทาง คือ ด้านหน้าเป็นของกลุ่มทัวร์ และด้านหลังถ้ามากันเอง
ทัวร์ Tourist route จะได้เดินกัน 3 ชั้น (ลึก 135 เมตร) ครับ เส้นทางประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งคิดเป็นไม่ถึง 1% ของความใหญ่ยักษ์ของเหมืองแห่งนี้ หลังจากเข้ามาในตัวอาคารเขาจะให้ลงลิฟท์ไปยังชั้น 1 เพื่อเริ่มต้นทัวร์ อากาศภายในอุณหภูมิประมาณ 14 องศาเซลเซียสตลอดทั้งปี ไม่อึดอัดครับ
ลิฟท์สไตล์เก่าๆ ตกใจนิดหน่อยตอนลิฟท์กระตุกเลื่อนลงกลัวมันร่วงลงไปเลย แต่แข็งแรงดีครับ
ลิฟท์จะพาไปยังโถงแรก คือ Danilowicz Shaft Bottom ซึ่งเป็นจุดเริ่มที่ชั้น 1 ครับ (ดูแผนที่เหมืองด้านบนประกอบนะครับว่าโถงไหนอยู่ตรงไหนชั้นไหนบ้าง) และก็เริ่มเดินตามไกด์ไปเรื่อยๆ ไล่ไปตามแต่ละโถงเลยนะครับ ไม่บรรยายมาก เพราะฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง 555 (ข้อมูลบางส่วนได้มาจากหนังสือที่ซื้อมาอ่านต่อนะครับ เพราะคิดว่าคงจำรายละเอียดไม่ได้มาก)
1. Nicholas Copernicus Chamber (ชั้น 1, 64.4 เมตร)
มีรูปสลักซึ่งสร้างเป็นอนุสรณ์ครบรอบวันเกิด 500 ปี (ปี 1973) ให้กับ Nicholas ซึ่งเป็น astronomer ชาวโปแลนด์ซึ่งเคยมาที่เหมืองแห่งนี้สมัยที่เขายังเป็นนักเรียนอยู่เมื่อปี 1493 รูปปั้นต่างๆ ในเหมืองสร้างจากเกลือเกือบทั้งหมดครับ
พื้นก็เป็นเกลือ นะครับ ซึ่งดูเหมือนหินอ่อนมาก ลองเอาไฟฉายวางคว่ำดูที่พื้น จะเห็นว่ามันโปร่งแสง
ทางเดินบางช่วงที่เชื่อมระหว่างโถง จะเป็นผนังและเพดานหินหรือเกลือซึ่งยังเห็นผลึกเกลือเกาะอยู่ลักษณะคล้ายๆ ดอกกระหล่ำเขาเรียกว่าเป็น “cauliflower” หรือผนังบางช่วงก็จะเป็นผนังไม้ซุงขนาดใหญ่
ผนังก็เป็นเกลือ เขาให้ลองเอานิ้วจิ้มมาเลียดูได้ แต่ไม่กล้า 555 ไม่รู้มีน้ำลายใครบ้าง
ทางเดินภายในเหมือง ทำอย่างดี เดินสะดวกครับ
2. Janowice Chamber (ชั้น 1, 63.8 เมตร)
มีรูปสลักจากเกลือ ซึ่งเล่าตำนานของ Wieliczka แต่ฟังไม่ทันครับ ไม่รู้เรื่องราวเป็นยังไง
3. Burnt out (Spalone) Chamber (ชั้น 1, 64.3 เมตร)
แสดงถึงอันตรายของการทำเหมือง อย่างหนึ่งคือ อันตรายจากก๊าซมีเทน ซึ่งออกมาจากหินที่ขุดซึ่งก๊าซนี้จะลอยอยู่บนเพดานโถงเพราะน้ำหนักเบากว่าอากาศ จะมีคนงานเหมืองทำการกำจัดก๊าซเหล่านี้โดยการจุดไฟดังที่เห็นในรูป
4. Sielec Chamber (ชั้น 1, 64.5 เมตร)
นอกจากม้าจะมีประโยชน์ในการทำงานแล้ว ยังช่วยเตือนภัยภายในเหมืองได้ สังเกตในรูป คนงานจ้องม้าอยู่ และในมือถือตะเกียงจุดไฟซึ่งจะบ่งถึงสัญญาณเตือนอันตรายจากก๊าซมีเทนได้ด้วย
5. Casimir The Great Chamber (ชั้น 1, 63.3 เมตร)
ประโยชน์ของม้าอย่างหนึ่งในการชักรอกเกลือที่ขุดได้
6. Kunegunda Gallery (ชั้น 1, 64.5 เมตร)
แสดงรูปจำลองการทำเกลือ ไม่ได้ถ่ายรูปมา
7. Pieskowa Skala Chamber (เป็นส่วนเชื่อมชั้น 1 และ 2, 65-90.7 เมตร)
มีแกนหมุนชักรอกเพื่อขนเกลือด้วยแรงคน
8. Kunegunda Traverse (ชั้น 2, 90.7 เมตร)
มีรูปสลักหินเกลือแสดงการขนน้ำจากใต้ดิน ซึ่งเครื่องมือเป็นเครื่องมือจริง หุ่นนี้เคลื่อนไหวได้
9. The Kuegunda Shaft Bottom (ชั้น 2, 90.8 เมตร)
รูปสลักแสดงการทำงานภายในเหมือง มีไฟสีสันสวยเลย
10. The Holy Cross Chapel (ชั้น 2, 91 เมตร)
มีรูปสลักไม้ของพระเยซู และ Our Lady the Victorious
11. St. Kinga’s Chapel (ชั้น 2, 91.6-101.4 เมตร)
เป็นโถงที่ใหญ่มาก ที่นี่ถ้าจะถ่ายรูปต้องเสียเงินเพิ่มคนละ 10 PLN ครับ มีรูปสลักหลายชิ้นมาก และมีโคมไฟแชนเดอเลียซึ่งทำจากผลึกเกลือ (salt crystal) ด้วย
Monument of Pope John Paul II
St. Kinga’s Chapel
Heart of Jesus
Massacre of the Innocents
Flight into Egypt
The Last Supper
Doubting Thomas
Golgotha
Resurrection Chapel
12. The Erazm Baracz Chamber (ชั้น 2, 100.4 เมตร)
Salt Lake
13. The Michalowice Chamber (ชั้น 2, 108.8 เมตร)
14. The Drozdowice Chamber (ชั้น 2, 110.6 เมตร)
ห้องนี้เป็นจุดพัก มีร้านของของที่ระลึกเล็กๆ รูปสลักของคนทำงานเหมือง และพิพิธภัณฑ์ย่อยๆ
15. The Weimar Chamber (ชั้น 2, 110 เมตร)
เป็นโถงที่พื้นถูกน้ำท่วมกลายเป็นทะเลสาบย่อยๆ ที่นี่มีการแสดงแสงเสียงเล็กน้อยแบบสั้นๆ ครับ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาครับ เพราะเขาปิดไฟมืดก่อนแสดง เลยไม่กล้ากดถ่าย
รูปสลักระหว่างทางเดิน เป็นบุคคลสำคัญหลายๆ ท่าน แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นใครบ้าง
16. The Jozef Pilsudski Chamber (ระหว่างชั้น 2-3, 120-130.9 เมตร)
มีรูปสลักของ St. John Nepomucen
เสร็จจากตรงนี้ก็จะใกล้ทางออกแล้วครับ ส่วนใหญ่ของชั้น 3 จะเป็นจุดพัก มีร้านอาหารเล็กๆ ห้องจัดเลี้ยง และร้านขายของที่ระลึก
17. Stanislaw Staszic Chamber (124.7 เมตร)
เป็นโถงที่มีขนาดใหญ่ สูงถึง 36 เมตร เห็นลิฟท์อยู่ทางขวา
18. The Warden (124.7 เมตร)
19. The Warsaw Chamber (122.5 เมตร)
เป็นโถงกว้าง สามารถใช้เป็นที่จัดงานเลี้ยง งานแต่งงานได้
20. St. John’s Chapel (ชั้น 3, 135 เมตร)
ทัวร์ก็จะสิ้นสุดกันตรงจุดนี้ครับ เดินต่อไปอีกหน่อยเพื่อไปขึ้นลิฟท์ขึ้นไปยังจุดตั้งต้นของเราตอนแรก
ใช้เวลาตั้งแต่เริ่มออกจาก Krakow จนถึงกลับที่พัก รวมประมาณ 4 ชั่วโมงครับ ได้เห็นสิ่งแปลกตา และความยิ่งใหญ่ของเหมืองที่เกิดจากมนุษย์ทำ มีการจัดการท่องเที่ยวที่เป็นระบบระเบียบดีครับ
ปิดท้ายด้วยรูป Wieliczka Salt Mine ยามค่ำคืนครับ ที่โปแลนด์คนอาจไม่ค่อยได้มาเที่ยว แต่เป็นประเทศที่มีเสน่ห์เมืองเก่าอยู่มากครับ สถาปัตยกรรมสวย เมืองไม่ใหญ่ ที่สำคัญปลอดภัยครับ
สวยมากค่ะ กำลังจะเดินทางไป ขอบคุณที่แชร์มากๆค่ะ
ขอบคุณครับ ^^