พิกัดรองในเมืองหลัก (Ep. 2) 10 จุดห้ามพลาดใน Golden Gate Park

ช่วยไลค์ช่วยแชร์ครับ

 

 

ทุกเมืองของอเมริกาจะมีสวนสาธารณะใหญ่ๆ อยู่อย่างน้อย 1 ที่ สำหรับซานฟรานซิสโกก็มี Golden Gate Park ซึ่งใหญ่มากและเป็นมากกว่าสวน เพราะข้างในมีที่ให้เที่ยวหลากหลายมาก

 

  • Golden Gate Park ก็เป็นอีกพิกัดที่หลายคนไม่รู้จักทั้งที่อยู่ห่างจาก downtown มานิดเดียว
  • จุด unseen ทั้งหลายของซานฟรานในแผนที่ด้านล่างนี่ไม่ต้องกลัวว่ามันจะไปยากครับ เพราะระบบขนส่งสาธารณะที่ซานฟรานแถบ Bay Area นี่สะดวกมากครับ ทั้งรถเมล์และรถไฟ (Muni) ไปได้เกือบหมดไม่ต้องขับรถให้ปวดหัวเรื่องที่จอดรถเลย
  • สามารถโหลดแอพ Muni หรือใช้ google map ก็สามารถรู้เส้นทางและเบอร์รถได้ไม่ยาก แถมยังค่อนข้างตรงเวลาด้วย (ถ้าพนักงานไม่ประท้วงนะครับ นานๆ มีที)
แผนที่รวมพิกัดรองๆ ที่หลายคนอาจไม่เคยไปของซานฟรานซิสโก

 

10 จุดห้ามพลาดใน Golden Gate Park

Golden Gate Park เป็นสวนสาธารณะเก่าแก่ของซานฟรานซิสโก อยู่ใน Sunset District มีพื้นที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า เชื่อไหมครับว่าที่นี่ใหญ่กว่า Central Park ที่มีชื่อเสียงของนิวยอร์คซะอีก คือ ใหญ่ถึง 4.8 x 0.8 กิโลเมตรเลยทีเดียว ข้อมูลเพิ่มเติมคลิ๊กที่ logo ด้านล่าง หรือ เข้า official website ของ Golden Gate Park หรือ San Francisco Recreation & Parks ครับ

 

 

มีอะไรให้ดูบ้าง

ตอบสั้นๆ ว่า “เยอะมาก”

  • สวนหย่อม ที่นั่งปิคนิค ทะเลสาบ ให้พักผ่อนหย่อนใจและวิ่งออกกำลังกาย
  • สนามเด็กเล่น สนามกีฬา
  • สวนจัดแสดง เช่น Japanese Tea Garden, Botanical Garden และ Conservatory of Flowers
  • พิพิธภัณฑ์ เช่น De Young Museum และ California Academy of Sciences
  • สุดทางทางตะวันตก ทะลุไปออกชายหาด Ocean Beach 

การเดินทาง

  • รถสาธารณะ มีทั้งรถเมล์ และรถไฟฟ้า Muni แต่ที่แนะนำคือ รถไฟฟ้า Muni ครับ ขึ้นสาย N Judah มาลงที่ป้าย 9th Ave & Irving Street และเดินมานิดเดียวเข้าสวนทางประตู 9th Ave
  • รถยนต์ สะดวกสุด แต่ตามข้างทางหาที่จอดยากมาก หรือจะมาจอดที่ชั้นใต้ดินแถวๆ Music Concourse ก็ได้แต่ค่อนข้างแพง
  • ที่นี่มีหลายประตูทางเข้า ผมแนะนำให้เข้าทาง ประตู 9th Ave ฝั่ง Lincoln Way เพราะใกล้จุดเที่ยวหลักๆ เยอะหน่อย แต่ก็ขึ้นกับว่าเราจะไปเที่ยวตรงไหนด้วย ดูตามแผนที่ด้านบนเลยครับ
  • การเดินทางในสวน ส่วนใหญ่ใช้เดินเอา แต่ถ้าจะเที่ยวจากขอบตะวันออกไปจนสุดตะวันตกในวันเดียวคงเดินกันไม่ไหว (เกือบ 5 กิโล) เพราะมีหลายจุดให้แวะ เพื่อไม่ให้เหนื่อยเกินไปอาจต้องแบ่งหลายวันหรือเลือกเข้าแค่บางที่
    1. ถ้าจะเอาแค่จุดหลักๆ ที่น่าสนใจ แนะนำทางตะวันออกของสวนแถว Music Concourse (ครึ่งขวาของแผนที่ด้านบน)
    2. แต่ถ้าจะไปสุดฝั่งทาง Ocean Beach ด้วย แนะนำให้ออกมานั่งรถเมล์หรือรถไฟฟ้า Muni ไปดีกว่า หรือนั่ง free shuttle ก็ได้ครับ 
    3. Free shuttle bus ให้บริการเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ (city holiday) ตั้งแต่ 9.00-18.00 น. ทุกๆ 15-20 นาที (แต่บางทีก็รอนานกว่านั้น) ส่วนใหญ่จอดตามจุดหลักๆ ตามรูปด้านล่างครับ

แผนที่การเดินรถ shuttle

  • สวนนี้ไม่มีปิดครับ (ยกเว้นพวกสวนจัดแสดง หรือ พิพิธภัณฑ์ต่างๆ ก็ปิดตามเวลาของเขา) แต่ไม่แนะนำให้มาเดินกลางคืน เพราะเงียบและมืดมากกกก มีคนจรแอบเข้ามาพักด้วย ถึงจะมีตำรวจคอยตระเวนตรวจตราก็ตาม แต่มันน่ากลัวมาก

 

Music Concourse

 

Francis Scott Key Monument

 

10 จุดแนะนำ มีอะไรบ้าง ตามมาเลยครับ!

หมายเหตุ: ข้อมูลเวลาเปิดปิด และค่าเข้า เป็นข้อมูลปี 2019 ครับ (เช็คข้อมูล update โดยเข้าที่ลิงค์ที่ให้ไว้ในแต่ละสถานที่ครับ)

จุด 1 – California Academy of Sciences

ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1853 เป็นศูนย์การเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่คุ้มค่าแก่การเข้าชมมากเพราะมีทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่อวกาศยันใต้สมุทร เช่น aquarium, natural history museum, ท้องฟ้าจำลอง และ rainforest นอกจากนี้มีกิจกรรมให้เด็กๆ ได้เล่นระหว่างเดินชมด้วย ข้อมูลเพิ่มเติมกด logo ด้านล่าง หรือเข้า official website ได้

อ่านรีวิวที่นี่ >>> Click!

  • เปิดเวลา 9.30-17.00 น. (วันอาทิตย์เปิด 11.00-17.00 น.)
  • ค่าเข้าผู้ใหญ่ 39.95 USD
  • ที่นี่ใช้เวลามากหน่อย เอาแบบครบถ้วนน่าจะอย่างต่ำ 4 ชั่วโมง

ด้านหน้าตรงทางเข้า
Aquarium

จุด 2 – De Young Museum

เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะแนว Fine Arts คนชอบงานศิลปะน่าจะชอบที่นี่ ถ้าชอบอย่าลืมแวะ Legion of Honor ด้วยครับ เพราะตั๋วเข้าสามารถใช้เข้าได้ทั้งสองที่ แต่จะอยู่ไกลกันซักหน่อย ต้องวางแผนเวลาดีๆ ข้อมูลเพิ่มเติมกด logo ด้านล่าง หรือเข้า official website ได้

 

  • อยู่แถวๆ Music Concourse ตรงข้ามกับ California Academy of Sciences เลย
  • เวลาเปิด 9.30-17.15 น. ปิดวันจันทร์
  • ค่าเข้าผู้ใหญ่ 15 USD สามารถใช้เข้า Legion of Honor ได้ด้วย ดังนั้นถ้าให้คุ้มก็เผื่อเวลาไปทั้งสองที่เลย
  • ระยะเวลาเดินชม ไม่แน่ใจครับ เพราะที่นี่ผมแทบจะไม่ได้เดินเลย (ไม่ใช่แนวงานศิลปะ แหะๆ) รูปภายในพิพิธภัณฑ์ด้านล่างเอามาจากเว็บไซต์เขา

จุด 3 – Conservatory of Flowers

เปิดครั้งแรกตอนปี ค.ศ. 1879 จัดว่าเป็นหนึ่งในที่ปลูกต้นไม้ดอกไม้ใน “เรือนกระจก” ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายในแบ่งเป็นหลายโซนตามชนิดของต้นไม้ เช่น Potted plant gallery, Lowland gallery (พืชแถบ South America), Highland gallery (พืชจาก Central America) และ Aquatic Gallery (พืชแถบแม่น้ำอเมซอน) ข้อมูลเพิ่มเติมกดที่ logo ด้านล่าง หรือคลิ๊กเข้า official website

  • เวลาเปิด 10.00-18.30 น. ปิดวันจันทร์
  • ค่าเข้าผู้ใหญ่ 9 USD 
  • เดินชม 2 ชั่วโมงก็ครบ

ตัวอาคารสีขาวและมีแปลงดอกไม้ด้านหน้าสวยมาก

ภายในอาคารควบคุมสภาพอากาศและอุณหภูมิไว้ เดินกันเหงื่อตกเลย (มันร้อนชื้น)

จุด 4 – San Francisco Botanical Garden

เป็นสวนพืชและดอกไม้ที่เก่าแก่ เริ่มมีการปลูกต้นไม้นานาพันธุ์ที่นี่ตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1937 ปัจจุบันมีหลายหมื่นสายพันธุ์จากทั่วทุกมุมโลกทั้งอเมริกา, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และแอฟริกา ซึ่งถูกจัดแสดงแบ่งไว้เป็นโซนๆ แนะนำให้มาฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูร้อนครับ (ฤดูหนาวจะโกร๋นและแห้งๆ ไม่น่ามา) ข้อมูลเพิ่มเติมคลิ๊กที่ logo ด้านล่าง หรือเข้า official website ครับ

  • ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 9 USD (เด็ก 6 USD)
  • เปิด 7.30-18.00 น. (เวลาปิดขึ้นกับฤดูกาลด้วย)
  • กว้างมาก แบ่งเป็นหลายโซน เดินกันจนเมื่อย แนะนำให้มาช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน จะมีดอกไม้นานาพันธุ์บานกันสะพรั่ง
  • เดินชมแบบเรื่อยๆ ไปทุกโซน ก็ประมาณ 3-4 ชั่วโมง

แผนที่ Botanical Garden แบ่งตามโซน

 

แค่โผล่จากประตูทางเข้าก็ร่มรื่นมาก

ทางเดินของแต่ละโซนสวยและร่มรื่น

มีแอ่งน้ำและน้ำตกเล็กๆ หลายจุด

จุด 5 – Japanese Tea Garden

จัดว่าเป็นสวนญี่ปุ่นสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดในอเมริกา ช่วงฤดูใบไม้ผลิจะมีซากุระและดอกไม้อื่นๆ บานสวยมาก นอกจากเดินเล่นชมสวนแล้วที่นี่ยังมีกิจกรรมดื่มชาด้วย ข้อมูลเพิ่มเติมคลิ๊กที่รูปด้านล่าง หรือ เข้าไป official website ได้ครับ 

 

 

  • เปิด 9.00-17.45 น. (เวลาปิดขึ้นกับฤดูกาล ถ้าฤดูหนาวจะปิดเร็วหน่อย เช็คกันก่อนไปครับ)
  • ค่าเข้าผู้ใหญ่ 9 USD (วันจันทร์, พุธ, ศุกร์ ก่อน 10.00 น. เข้าฟรี!)
  • เดินชมชิลๆ ก็น่าจะประมาณ 2 ชั่วโมง

 

แผนที่ Japanese Tea Garden

กระรอกตัวอ้วนพี (มองเห็นกันไหม)

จุด 6 – Stow Lake และ Strawberry Field

ทะเลสาบเล็กๆ ล้อมรอบเกาะเล็กๆ อยู่ใจกลาง Golden Gate Park มีต้นไม้หลากหลายชนิด และบนเกาะเล็กๆ นั่นก็ขึ้นไปเดินเล่นได้ เขานิยมมาวิ่งออกกำลังกายกัน เดินเล่นรอบๆ ทะเลสาบใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงครับ

ใกล้ๆ ก็ยังมีทะเลสาบ น้ำตกเล็กๆ อีกหลายจุดเลย

จุด 7 – AIDS Memorial Grove

เป็นสวนหย่อมเล็กๆ เริ่มก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1988 เพื่อเป็นที่รำลึกและสร้างกำลังใจ แรงบันดาลใจให้ต่อสู้ของผู้ป่วยโรคเอดส์

The Circle of Friends

จุด 8 – Buffalo Paddock

ควายไบซันไม่ได้มีแต่ที่ Yellowstone National Park เท่านั้นนะ ที่ซานฟรานก็มี เจ้าไบซันพวกนี้ถูกนำมาเลี้ยงที่สวนแห่งนี้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1891 แต่ดูได้ไกลๆ จากริมรั้วด้านนอกครับ บางทีก็มองไม่เห็น ตอนนี้น่าจะมีอยู่ไม่กี่ตัว ตามความเห็นส่วนตัว พวกเขาดูไม่ค่อย active มีความสุขเหมือนที่เห็นใน Yellowstone มันน่าจะบ่งถึงว่าพวกเขาควรจะได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติจริงๆ มากกว่า ถึงแม้ที่นี่เขาจะเลี้ยงและดูแลอย่างดีก็ตาม…

จริงๆ อยู่ไกลมาก นี่ใช้เลนส์ซูมถ่ายเอา

ยืนรอดูอยู่นานมากกว่าจะยืนให้ถ่ายรูปเต็มตัว

จุด 9 – Windmills

  • ตั้งอยู่ที่ขอบทางด้านตะวันตกของสวน ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1902 เพื่อปั๊มน้ำมาใช้ในสวน มีทั้งหมด 2 กังหัน คือ Dutch Windmill (อยู่ทางเหนือ) และ Murphy Windmill (อยู่ทางใต้)
  • ที่ Dutch Windmill จะมีการปลูกทุ่งทิวลิปหรือดอกไม้อื่นรอบๆ ด้วย สวยดีครับ ถ้าแวะมาที่ Ocean beach เดินต่อเข้ามาใน Golden Gate Park หน่อยเดียว ก็ถึงที่นี่แล้วครับ ไม่ควรพลาด

Dutch Windmill
Murphy Windmill

จุด 10 – Ocean Beach

จริงๆ Ocean beach นี่ไม่ได้อยู่ใน Golden Gate Park แต่อยู่ติดขอบทางด้านตะวันตกของสวน เลยขอยกมาให้ดูกันในบทความนี้เลยแล้วกันครับเพราะเดินออกมาจากสวนนิดเดียวก็ถึงแล้ว ที่นี่จัดเป็นชายหาดยอดนิยมของชาวซานฟรานก็ว่าได้ ที่นี่คนนิยมมานั่งเล่น พาสุนัขมาวิ่งเล่น เล่นว่าว เล่นเซิร์ฟ ช่วงฤดูร้อนนี่เป็นชายหาดที่คึกคักมาก

ทรายจะหยาบๆ หน่อยไม่ละเอียด

สวนเล็กๆ ในเมืองใหญ่ น้อยคนนักจะรู้จัก แต่ที่นี่เหมือนเป็นหัวใจของธรรมชาติในซานฟรานเลย มีหลายอย่างให้ดู ให้ทำ รับรองมาที่นี่แบบชิลๆ ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ

 

 

About Breathe My World 68 Articles
A man who love travelling the world.