#ขุดทริปเก่าเอามาเล่าใหม่
ทริปสั้นๆ นี้เกิดขึ้นในช่วงสิ้นปี พ.ศ. 2557 นู่น วันว่างๆ ใกล้ๆ ปีใหม่ได้ไปเที่ยวประเทศ Mexico ซึ่งที่นี่ขึ้นชื่อว่าค่อนข้างอันตรายในการมาท่องเที่ยวพอสมควร แต่สำหรับแถว Cancun นี่ถือว่าปลอดภัยพอสมควรครับ เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยวและทางการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยค่อนข้างสูง ตอนกลางคืนจะเห็นรถตำรวจจอดตรวจตราอยู่เป็นระยะๆ แถวๆ Cancun นี่นอกจากทะเลสวยน้ำใสแล้ว ยังเต็มไปด้วยแหล่งอารยธรรมเก่าแก่ของชาวมายา
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
📸 Cancun อยู่ทางฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ Mexico อยู่ในรัฐ Quintana Roo ของคาบสมุทร Yucantan ของทะเล Caribbean
📸 ที่นี่มีที่เที่ยวยอดนิยมหลายที่ เช่น ชายหาด Cancun, เกาะ Isla Mujeres, เกาะ Cozumel, Playa del Carmen, Cenote ต่างๆ และแหล่งอารยธรรมเก่าแก่ของชาวมายาอีกมากมาย เช่น Chichen Itza หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่, Tulum Ruins, Coba และ Uxmal เป็นต้น
📸 วีซ่า : คนไทยต้องทำวีซ่าก่อนครับ แต่ถ้ามีวีซ่าสหรัฐอเมริกาแล้ว ไม่ต้องทำครับ ของผมมีวีซ่าอเมริกาแล้ว เลยไม่ต้องทำไป ผมจึงไม่มีข้อมูลรีวิวการขอวีซ่าของ Mexico นะครับ (ดูคร่าวๆ ตาม ลิงค์นี้ ครับ มีรีวิวไว้ใน pantip)
📸 เที่ยวที่ไหนบ้าง : แผนการท่องเที่ยวของเราคงไปทั้งหมดข้างบนไม่ได้เนื่องจากมีเวลาแค่สี่วันกว่าๆ เท่านั้น ก็ต้องเลือกเอาที่ไม่ห่างไกลกันมากนัก (จุดสีน้ำเงินในแผนที่)
- วันเดินทางถึง Cancun
- วันที่ 1 : Chichen Itza และ ชายหาดบริเวณ Cancun (hotel zone)
- วันที่ 2 : เกาะ Isla Mujeres
- วันที่ 3 : Tulum และ Coba
- วันที่ 4 : Xel-Ha park
- วันเดินทางกลับ
📸 การเดินทาง : หลังจากมาถึงแล้ว แนะนำซื้อ local tour จะดีกว่า จากเหตุผล คือ
- มีไกด์ เพราะอารยธรรมเก่าแก่ มีเรื่องราวเยอะ ถ้ามีไกด์จะทำให้เราเข้าถึงและเที่ยวสนุกมากขึ้น (ถึงจะฟังภาษาอังกฤษได้ไม่ดีนัก แต่ก็พอจับใจความได้บ้างล่ะน่า) ถ้ามีอะไรเขาสามารถคุยกับคนท้องถิ่นได้
- ทัวร์เขามักจะมารับส่งที่โรงแรมเลย แต่! ตอนเลือกทัวร์ บอกเขาด้วยว่าเราพักที่ไหน เพราะถ้ารับตอนเช้าที่เมืองนึง แต่ตอนเย็นเราจะไปนอนอีกเมืองนึง บางทัวร์เขาไม่รับส่งข้ามเมืองครับ หรือไม่งั้นก็ต้องจ่ายเพิ่ม ดังนั้นควรตกลงรายละเอียดไว้ก่อนดีๆ
- ประหยัดเวลากว่าการไปรอรถเมล์ และไม่ต้องกะเวลาให้วุ่นวาย
- ค่าเช่ารถไม่ได้ถูกนะครับ แถมเป็นเกียร์แมนวลเกือบทั้งหมด
- อ่านหลายรีวิวเขาบอกว่า ถ้าขับรถ อาจโดนโจรเรียก (ตำรวจในคราบโจร หรือ โจรปลอมเป็นตำรวจก็ไม่รู้) และปล้นเงินและดันเอาพาสปอร์ตไปด้วย (เอาไปทำไมไม่รู้) มีหลายรีวิวเขาโดนกัน เลยกลัว
- การเดินทางในโซนเมือง Cancun สามารถนั่งรถเมล์ได้ ซึ่งมีสองสาย คือ R-1 และ R-2 วิ่งจาก downtoan และวนใน Hotel zone
📸 การเลือกทัวร์ : ลองเปรียบเทียบกันหลายๆ ที่ ถ้าจะให้ประหยัดที่สุด คงต้องไปเดินเลือกที่นู่นเลย (บูทขายทัวร์พบได้ทั่วไปตามสนามบิน, downtown, hotel zone หรือสถานีรถบัส หาได้ไม่ยาก) และยังสามารถต่อรองราคาได้ด้วย ส่วนของผมนี่ ที่ Cancun จองออนไลน์ก่อนไป เพราะเราไปกันตอนปีใหม่ กลัวหาทัวร์ไม่ได้ ใช้บริการของ Amigotour, ส่วนที่เกาะ Isla Mujeres ไปซื้อทัวร์บนเกาะเอาครับ
📸 ที่พัก :
- ส่วนใหญ่จะปักหลักพักแถว Cancun แล้วค่อยออกเที่ยวไปรอบๆ ในแต่ละวันเอา ที่พักแถว Cancun มีสองโซนหลักๆ คือ โซน downtown จะราคาไม่แพง และ Hotel zone ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ติดชายหาด ราคาก็จะแพงกว่า แต่หลายที่ค่าโรงแรมจะเป็นแบบ All inclusive รวมค่ากินไม่อั้นด้วย ถ้าปักหลักอยู่ชายหาดและโรงแรมเป็นส่วนใหญ่ เลือกแบบ All inclusive น่าจะคุ้มแน่นอน
- พวกผมพักกันที่ Hotel zone แต่เลือก รร. ที่ไม่ติดทะเลเพราะจะได้ราคาถูกหน่อย คือ Celuisma Imperial Lagoon Hotel (จุดสีชมพูในรูป) จากจุดนี้ก็สามารถเดินไปเที่ยวตามชายหาดได้ แต่ก็เดินไกลหน่อย
- พวกผมพักที่ Cancun กันสี่คืน ส่วนคืนสุดท้ายย้ายลงมาพักที่ Playa del Carmen เพราะอยู่ใกล้กับ Tulum ที่เรามาเที่ยวกันในวันหลังๆ
- ที่พักที่ Playa del Carmen ก็มีเยอะมากครับ ส่วนหญ่อยู่ที่ถนนเส้นช้อปป้ิงหลักของเมือง คือ ถนน 5th Ave Norte (La Quinta Avenida) ตามถนนสีส้มในแผนที่ข้างล่าง ถนนเส้นนี้คึกคักเกือบตลอดคืน มีร้านอาหาร ไอศครีม ของที่ระลึก ผับ/บาร์มากมาย
📸 สกุลเงิน : เปโซ (peso) เอาเงิน US dollar ไปแลกที่นู่น แต่แลกนอกสนามบินจะได้ rate ดีกว่า แต่จริงๆ แล้วเกือบทุกที่เขารับเงิน US dollar ด้วยครับ (แต่ rate จะแพงกว่าใช้เปโซครับ)
📸 ซิมการ์ดและอินเตอร์เนต : ไม่มีข้อมูลครับ แหะๆ เพราะตอนนั้นไปมันไม่ได้เข้าถึงอินเตอร์เนตง่ายเหมือนปัจจุบัน เลยไม่ได้ใช้ซิมการ์ดเลย แต่ดาวน์โหลดแผนที่ offline ของแอพ Mapme ไปใช้แทน
นิดหน่อยเกี่ยวกับ “มายา”
อารยธรรมมายา
- อาณาจักรของชาวมายา (บริเวณสีเขียวในแผนที่ด้านบน) ตั้งอยู่บริเวณอเมริกากลาง แถว ๆ ประเทศเม็กซิโก เบลีซและกัวเตมาลา มีความรุ่งเรืองตั้งแต่ช่วง 500 ปีก่อนคริสตกาลจนถึงราว ๆ ค.ศ. 1502
- สาเหตุที่อารยธรรมของชาวมายาล่มสลายสันนิษฐานว่าเป็นเพราะภัยแล้งหรือไม่ก็การระเบิดของภูเขาไฟ
- ชาวมายามีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับคณิตศาสตร์และดาราศาสตร์มาก มีการสร้างปฏิทินเป็นของตนเอง และมีความก้าวหน้าทางการเกษตรกรรมอย่างมาก
- ชาวมายานับถือเทพเจ้าหลายองค์ มีการสร้างสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่จากหิน และมีรูปร่างเป็นปิระมิดยอดตัด (ซึ่งต่างจากปิระมิดของอียิปต์) จุดประสงค์ของปิระมิดเหล่านี้ จะใช้เป็นวิหาร สุสาน และสถานที่บูชายัญ
Chichen Itza และ Cancun
หลังจากบินมาถึง Cancun international airport (CUN) กันตอนค่ำๆ หลังจากผ่าน ตม. ก็ออกมารอรับกระเป๋า พอเดินออกมา ก็จะเจอ tourist information และพนักงานจำนวนมาก (มาก) ตอนแรกไม่กล้าเข้าไปถามเพราะกลัวเป็นพวกแท๊กซี่หรือมาขายทัวร์ ตอนเห็นนี่กำลังจะเดินหนี แต่เขาดันเดินเข้ามาหาเองเลย วิ่งหนีไม่ทัน (ฮา) ปรากฎว่าเขาเข้ามาให้คำแนะนำดีมาก ทุกอย่างและทุกเรื่อง ถามได้หมด ที่สำคัญ ไม่เสียตังค์ด้วย
การไป Chinchen Itza มีทัวร์ให้เลือกมากมาย ส่วนใหญ่จะไปที่นี่และแถมเมืองเล็กๆ ชื่อ Valladolid ด้วย หรือบางทัวร์จะพาไปแหล่งน้ำใต้ดิน (sinkhole) ที่เรียกว่า Cenote ด้วยซึ่งมีมากมายเป็นร้อยๆ แห่งในแถบนี้ ในสนนราคาไม่ถึง 80$ ต่อคน
Chichen Itza เป็นแหล่งโบราณคดีที่สำคัญ ชาวมายา (หรือมายัน) สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ของเทพเจ้า ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ มีความสวยงามและน่าทึ่งของสถาปัตยกรรม คณิตศาสตร์ ดาราศาสตร์ และเป็นปฏิทินที่สมบูรณ์และน่าทึ่งของชาวมายา ภายในจะประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างหลายที่ ตามแผนที่ด้านล่างครับ
สิ่งก่อสร้างมีชื่อเสียงของที่นี่ คือ El Castillo หรือ The Castle Pyramid of Kukulcan เป็นศูนย์กลางของ Chichen Itza เป็นปิระมิดของเทพเจ้าคูคุลคาน (เทพเจ้าสูงสุดผู้ให้กำเนิดมนุษย์) มีรูปร่างเป็นแบบปิระมิด มีความสูงประมาณ 30 เมตร ทั้งสี่ด้านมีบันไดข้างละ 91 ขั้น รวม 4 ด้านและฐานด้านบนอีก 1 ขั้น ก็เท่ากับ 365 ซึ่งเท่ากับจำนวนวันใน 1 ปีตามปฏิทินพอดี และทุกๆ ส่วนประกอบที่อยู่บนด้านแต่ละด้านก็มีความหมายทางปฏิทินเช่นเดียวกัน
ราวบันไดที่แกะสลักเป็นรูปเทพเจ้า Kukultan เป็นรูปงูแต่มีเกล็ดเหมือนนก
จุดประสงค์ของปิระมิดนี่คือใช้สำหรับพิธีบูชาหรือบูชายัญเทพเจ้า Kukulkan ซึ่งเป็นเทพเจ้างู โดยจะทำการบูชายัญกันที่ฐานรูปตัดที่ยอดปิระมิด ที่นี่เคยเปิดให้ปีนขึ้นไปถึงยอดได้ จนเมื่อสิบกว่าปีก่อน มีนักท่องเที่ยวตกลงมาเสียชีวิตหลังจากนั้นเลยไม่ให้ปีนขึ้นไปอีก
วันหนึ่งในปลายเดือนมีนาคมและกันยายน เรียกว่าเป็นวัน Equinox เป็นวันที่ดวงอาทิตย์ตกทางตะวันออกและตกทางตะวันตกพอดีและกลางวันเท่ากับกลางคืนพอดีเช่นกัน จะมีปรากฏการณ์ที่เห็นเงาของแสงแดดทาบตรงบันไดทางด้านทิศเหนือเป็นรูปงู (ตามรูปล่าง Credit รูปจาก Wikipedia)
รอบๆ El Castillo ยังมีสิ่งก่อสร้างอื่นๆ อีกเยอะ เช่น Great Ball Court เป็นลานเล่นกีฬาชนิดหนึ่ง มีลูกเป็นลูกบอล และเล่นโดยใช้สะโพก แขน และขา ยิงให้ลูกเข้าห่วงกลมๆ สูงๆ ด้านบน (ไม่ใช้มือ ไม่ใช้เท้า…แล้วมันจะขึ้นไปเข้าห่วงสูงๆ ได้ไงไม่รู้เหมือนกันครับ คิดแล้วก็งง) แต่ที่แปลกคือ ทีมชนะจะต้องถูกบูชายัญ (ซึ่งชาวมายาถือว่าเป็นเกียรติอย่างสูงที่จะถูกบูชายัญ 😳 )
ห่วงประตู (จะไปยิงเข้าได้ยังไง ยังงงอยู่)
Temple of the Warriors (วิหารนักรบ)
เป็นสิ่งก่อสร้างรูปทรงปิระมิดยอดตัด มีเสาหินจำนวนมากเรียงรายกันอยู่โดยรอบวิหาร (group of a thousand columns) เชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของความหลากหลายของจิตใจมนุษย์ หรือไม่ก็หมายถึงนักรบผู้ร่วมต่อสู้กับปีศาจร้าย ด้านบนจะเห็นรูปปั้นคนนั่งกึ่งนอนอยู่ ชื่อว่า Chac Mool แต่ไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร
สถาปัตยกรรม ลวดลายตามผนังสิ่งก่อสร้าง บอกเรื่องราวต่างๆ มากมาย
ลวดลายผนังที่เป็นหัวกะโหลกด้านข้าง แต่ตรงมุมพอมองจะครบศีรษะพอดี
Cenote Sagrado
Cenote (แหล่งน้ำใต้ดิน) ใน Chichen Itza ที่นี่เขาเล่าว่าเป็นที่บูชายัญเด็ก โดยการให้ดื่มน้ำอะไรซักอย่างให้เมาๆ แล้วให้ใส่ชุดหนักๆ แล้วโยนลงน้ำ 😳
หลังกลับมาจากทัวร์ ก็ประมาณเกือบสี่โมงได้ เราก็แวะเข้าโรงแรมและออกมาขึ้นรถเมล์เพื่อไปเดินเล่นชายหาดแถว Hotel zone ซึ่งถ้าดูจากแผนที่ด้านบน hotel zone นี้จะมีลักษณะเป็นรูปคล้ายเลข “7” แถบนี้มีชายหาดสาธารณะอยู่หลายแห่ง แต่ที่คนไปเยอะๆ คือ Playa Delphines
พอเริ่มมืดเราก็มาหาข้าวเย็นกันแถวแหล่งช้อปปิ้งที่ชื่อ La Isla (ตรงบริเวณอื่นก็มีให้เลือกหลายร้าน แต่ดูน่าจะแพง และอยู่ห่างๆ กัน ถ้าไม่มีรถควรเลือกร้านไว้ก่อนแล้วขึ้นรถเมล์ตรงไปเลย) กินเสร็จก็เดินต่อมาทางเหนือเพื่อกลับโรงแรม ตรงหัวมุมเลข 7 ของแผนที่ก็จะเจอแหล่งสถานบันเทิง ที่มีชื่อเสียง คือ Coco Bongo
Isla Mujeres
Isla Mujeres เป็นเกาะที่อยู่ห่างออกไปจากชายฝั่งของคาบสมุทร Yucantan ประมาณ 8 ไมล์ การเดินทางไปที่นี่ก็โดยการขึ้นเรือ Ferry ซึ่งมีท่าเรืออยู่ 4 ที่หลักๆ ตามแผนที่ข้างล่าง ตรงท่าเรือ Puerto Juarez จะเป็นท่าที่คนนิยมมากที่สุด แต่ผมขึ้นที่ท่า Playa Tortugas เพราะอยู่ใกล้โรงแรม (เบอร์ 3 ในแผนที่)
พอถึงเกาะ ทันทีที่ลงจากเรือก็มีทัวร์ต่างๆ มา “รุม” พวกเราเลือกทัวร์ snokelling ตามแนวชายฝั่ง และแวะที่ Underwater Museum ด้วยตามแผนที่ข้างล่าง ในสนนราคา 100$ ต่อสามคน (อย่าลืมต่อราคาด้วย) ก็ถือว่าไม่แพงมาก เพราะรวมค่าเรือ อาหารกลางวัน อุปกรณ์ดำน้ำทุกอย่าง มีเสื้อชูชีพ หน้ากาก ตีนกบพร้อม
กิจกรรมอื่นบนเกาะนี้ เช่น เล่นน้ำที่ชายหาดที่คนนิยมไปเล่นมากที่สุดคือ North Beach ใกล้ๆ กับ downtown ตรงท่าเรือ Ferry ครับ หรือจะเช่ารถสกู๊ตเตอร์ หรือรถกอล์ฟ ขับเล่นรอบเกาะและแวะตามสถานที่เที่ยวต่างๆ ได้ มีทั้งว่ายน้ำกับปลาโลมา เต่าทะเล เป็นต้น
เรือที่จะพาเราไปดำ snorkelling
ที่แรกที่แวะ คือ ดำนำ้ตื้นแถบ Sac Bajo Reef คนเยอะมาก น้ำทะเลข้างบนสวยมากเพราะเป็นสีแบบ turqouise แต่ใต้น้ำ (ดำน้ำตื้น) แถบนี้ไม่ได้สวยแบบที่คิด น้ำค่อนข้างขุ่น ปะการังก็ไม่ได้เยอะ (ของไทยดูน่าจะสวยกว่ามาก) มีปลาหลายชนิด
El Farito (lighthouse)
จุดสุดท้ายที่ทัวร์พาเราไป คือ Underwater Museum ซึ่งเป็นประติมากรรมโดย Jason deCaires Taylor และคณะที่สร้างขึ้นใต้น้ำเพื่อเป็นแนวให้ปะการัง เป็นรูปปั้นคน/สิ่งของในอิริยาบถต่างๆ รวมประมาณ 500 ชิ้นสร้างเสร็จเมื่อปี 2013 การดำ snorkelling ก็สามารถเห็นได้ครับ แต่วันนั้นน้ำขุ่น คลื่นแรงมาก ทำให้มองเห็นไม่ชัดนักและ…เมาคลื่น ได้รูปมาแทบมองไม่ออกว่าเป็นอะไร
รูปที่คิดไว้….😍
สิ่งที่เห็นจริง….‼️
เสร็จแล้วเราก็กลับมาเดินเล่นที่ downtown ของเกาะซักพักจนเริ่มมืด
และขึ้นเรือเที่ยวสุดท้าย (17.30 น.) กลับโรงแรมครับ
รูปนี้เป็นท่าเรือที่จะกลับไปยัง Peurto Juarez คนเยอะมากกกกก แต่เราจะไปขึ้นอีกท่านึง คนน้อยกว่าเยอะเลย
Tulum และ Coba
แผนการเดินทางในวันนี้เราจะไปกันที่ Tulum และ Coba โดยไปกับบริษัททัวร์ Cancun Vacation Experts ทัวร์ที่ไป Tulum หรือ Coba นี้ ก็จะมีหลายแพคเกจหลายบริษัทให้เลือกเช่นเดียวกัน อาจเลือก Tulum-Xel Ha, Coba-Xel Ha, Tulum-Coba ฯลฯ
Tulum
เป็นเมืองทางชายฝั่งทะเล Carribean ทางตะวันออกของ Mexico ได้รับการขนานนามว่าเป็นนครแห่งรุ่งอรุณ มีส่ิงก่อสร้างมากมายซึ่งถูกล้อมรอบด้วยกำแพง (ตามรูปด้านล่าง) เป็นสถานที่บูชาเทพเจ้าของชาวมายาที่สำคัญอีกที่หนึ่งและยังเป็นเมืองท่าที่สำคัญอีกด้วย ถึงที่นี่จะไม่ยิ่งใหญ่หรืออลังการเท่า Chichen Itza แต่การที่ที่นี่อยู่ติดกับทะเลเลยทำให้ทัศนียภาพของที่นี่สวยงามและมีเสน่ห์ไม่น้อยไปกว่า Chichen Itza เลย
El Castillo (The Castle) เป็นสิ่งก่อสร้างที่สำคัญของที่นี่ ตั้งอยู่บนหน้าผาริมทะเลซึ่งสูงกว่าจุดอื่นๆ ใช้เป็นจุดสังเกตการ และมีบันไดเดินลงไปยังชายหาดด้วย
ปกติจะเดินลงบันไดไปที่ชายหาดและเล่นน้ำได้ แต่วันที่ไปคลื่นแรงและน้ทะเลสูง เขาเลยปิดไม่ให้เดินลง
Temple of Wind God
Temple of the Frescos
เป็นวิหารที่มีภาพเขียนบนฝาผนังภายใน แต่ชมได้แต่ด้านนอก เขาไม่ให้เข้าไปภายใน
ที่ผนังด้านนอก เขาว่าเป็นรูปคลอดลูก มีตั้งแต่คลอดปกติ คลอดท่าก้น เป็นต้น (ดูไม่ออก)
รูปคนลืมตา
Temple of the Descending God
เป็นวิหารขนาดเล็ก มีที่มาจากรูปแกะสลักเทพเจ้าที่มีท่าทางเหมือนร่วงหล่นมาจากท้องฟ้า มีตำนานว่าเป็นเทพเจ้าแห่งผึ้งทั้งปวง
เดินไปเดินมาก็เจออีน่ากลัว เอ๊ย อีกัวน่า พบเห็นได้ทั่วไป
หลังจากออกจากที่ Tulum แล้ว ทัวร์ก็พาเราไปต่อที่ Cenote เล็กๆ แถวนั้น คือ Cenote (Dezonod Wayak) นี่ขนาดเป็นที่ไม่มีชื่อเสียง นักท่องเที่ยวไม่เยอะ ยังสวยและน่าลงเล่นน้ำขนาดนี้
ที่บริเวณใกล้ๆ กัน มีบ้านชาวมายา เปิดให้ชมคล้ายเป็นพิพิธภัณฑ์ย่อมๆ
Coba
Coba เป็นเมืองที่อยู่ใจกลางป่า อยู่ไม่ไกลจาก Tulum มีส่ิงก่อสร้างที่เป็นลักษณะของปิระมิดอยู่หลายที่ ที่ๆ สูงที่สุด (ประมาณ 42 เมตร) คือปิระมิด Ixmoja ซึ่งอยู่ในกลุ่มของ Nohoch Mul และเป็นปิระมิดที่สูงที่สุดในคาบสมุทร Yucantan ด้วย การเที่ยวใน Coba ทำได้สามวิธี คือ เดิน (ประมาณ 3 กิโลกว่า), เช่าจักรยาน และใช้บริการรถถีบ (Mayan Taxi)
เราเลือกวิธีเช่าจักรยานขี่เอา เพราะขี้เกียจเดิน
ปิระมิด Ixmoja ยังสามารถให้ปีนขึ้นไปได้ ชันแต่ก็ไม่ชันมาก ขั้นบันไดค่อนข้างแคบแต่ก็เดินไม่ได้ลำบากมากนัก (แต่ก็เสียวพอสมควร)
ที่นี่ก็มี Ball Court (สนามบอล) เหมือนกัน ดูจะเป็นกีฬายอดนิยมในสมัยนั้น
รอบๆ
Xel-Ha
วันนี้ค่อนข้าง free เพราะมีตัวเลือกสองอย่างคือ เที่ยวเกาะ Cozumel ซึ่งก็มีชื่อเสียงพอๆ กับเกาะ Isla Mujeres และเที่ยวพวกสวนน้ำ/สวนสนุก (theme park) ที่มีอยู่ 3-4 แห่งในบริเวณนี้ แต่พวกเราคิดว่าไปเกาะกันมาแล้วเมื่อวันก่อน วันนี้เลยลองเข้า theme park ดู เพราะดูๆ ก็มีกิจกรรมให้ทำหลายอย่างเหมือนกัน รูปล่างเป็นตัวอย่างกิจกรรมบนเกาะ Cozumel (แต่ผมไม่ได้ไปครับ) มีทั้งนั่งเรือ, ดำน้ำ, Jeep tour ฯลฯ
Xel-Ha Park เป็นสวนน้ำ ที่ตั้งอยู่ใน Riviera Maya ในรัฐ Quintana Roo ใกล้ๆ กับ Tulum ถูกสร้างโดยผู้สร้างกลุ่มเดียวกับ Xcaret สวนน้ำอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างไปไม่มากนัก เป็นบริเวณเป็นปากอ่าวเข้าไปยัง lagoon, ตอนต้นปี 2014 Theme park แห่งนี้ติดอันดับเป็น theme park ที่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวมากที่สุด
ค่าเข้าประมาณ 79$ (ราคาปี 2557) แต่ปกติจะซื้อเป็นแบบ All-inclusive ก็ 89$ ซึ่งคุ้มกว่าเพราะกินฟรีได้ทั้งวันรวมถึงค่าเช่าอุปกรณ์ snorkelling ด้วย นอกจากนี้ยังมีแพคเกจที่รวมค่ารถรับส่งจากโรงแรมด้วย ราคาก็ประมาณ 109-129 USD แล้วแต่ทัวร์
กิจกรรมที่นี่มีหลากหลาย ส่วนใหญ่เป็นกิจกรรมทางน้ำ เดินได้รอบ lagoon อยากกระโดดลงน้ำตรงไหนก็ทำได้ แต่ใต้น้ำก็ไม่ได้มีอะไรให้ดูมากนัก กิจกรรมฟรีที่ทำได้ก็ตามจุดในแผนที่ เช่น snorkelling กระโดดหน้าผา โรยตัว หรือไต่เชือก ส่วนกิจกรรมที่ต้องเสียเงินเพิ่ม เช่น ว่ายน้ำกับปลาโลมา (100+ USD), Sea trek (ใส่หมวกหนักๆ เดินใต้ทะเล ดูปลา; 49 USD), diving in cenote (49 USD) ฯลฯ ก็ไปเลือกๆ เอาแต่แต่ละอย่างก็แพงเอาการทีเดียว
เสร็จประมาณห้าโมงเย็นเราก็นั่งรถกลับโรงแรม และออกเดินสำรวจเมือง Playa del Carmen ต่อ ก่อนเตรียมตัวกลับกันพรุ่งนี้เช้า
Playa del Carmen
เป็นเมืองเล็กๆ ติดทะเลใน Riviera Maya ตอนแรกคิดว่าเป็นเมืองเงียบๆ…แต่ที่ไหนได้ ดูคึกคักมากโดยเฉพาะถนนสายช้อปปิ้งของที่นี่ (ถนน 5th Ave Norte (La Quinta Avenida) ตามแผนที่ตอนต้นกระทู้ครับ) มีห้างใหญ่และร้านอาหาร ร้านค้า ผับมากมาย คือ คึกคักเกือบตลอดคืนเลยก็ว่าได้ ความเห็นส่วนตัวคิดว่าที่นี่น่าพักมากกว่าใน Cancun อีก
ปิดท้ายด้วยรูปพระอาทิตย์ขึ้นที่ Playa del Carmen ครับ
วันรุ่งขึ้นเราก็เตรียมตัวกลับกัน และปิดท้ายทริปต้อนรับปี 2015 ได้อย่างน่าประทับใจ หากมีเวลามากกว่านี้น่าจะดีมาก เพราะทางด้านตะวันตกออกไปยังมีที่เที่ยวอีกหลายที่ที่เรายังพลาดไป เช่น Uxmal, Valladolid ฯลฯ
ที่พามารอบนี้ถือว่ายังเป็นส่วนน้อยครับ แหล่งอารยธรรมของชาวมายายังมีอีกเยอะในประเทศเม็กซิโก ใครชอบประวัติศาสตร์แล้วได้แถมธรรมชาติงามๆ ไม่น่าพลาดครับ