ขุด the series (1) : ลัดเลาะรอบซานฟราน

ช่วยไลค์ช่วยแชร์ครับ

 

#ขุดทริปเก่าเอามาเล่าใหม่

รูปเก่าๆ ถูกเก็บไว้อย่างดีในฮาร์ดดิส มันก็คงจะอยู่อย่างนั้นแล้วเราก็จะลืมไปในที่สุด

 

เหตุผลนึงที่มานั่งเขียนเรื่องราวที่ไปเที่ยวนู่นนี่มาก็เพราะข้อความด้านบนนี่แหละครับ การเก็บไฟล์รูปไว้เฉยๆ โอกาสน้อยมากที่จะมานั่งกดดูกันอีกรอบ รายละเอียดหลายๆ อย่างก็จะลืมๆ ไป ถ้าฮาร์ดดิสหรือ SD card พังก็จบเห่ การได้เขียนและได้มานั่งอ่านเมื่อเวลาผ่านไป สำหรับผมมันทำให้ความทรงจำหลายๆ อย่างชัดเจนขึ้นมา และอาจจะยังเป็นประโยชน์กับคนอื่นได้ด้วย ยินดีที่มีคนถามข้อสงสัยและขอคำแนะนำกันมาหลังไมค์เรื่อยๆ ครับ

 

 

โควิดยังอยู่ เราก็อยู่บ้านต่อไป เดาๆ เอาว่าอย่างน้อยสองปี เราถึงน่าจะเดินทางท่องเที่ยวกันได้ใหม่อย่างสบายใจ ระหว่างนี้เราก็ขุดทริปเก่าๆ แสนประทับใจทั้งที่เล่าแล้วและยังไม่ได้เล่า เอามาแชร์กันอีกรอบแล้วกันครับ มาเริ่มตอนแรกของ ขุด The series กันที่เมืองใหญ่ยอดนิยมในอเมริกากันก่อน นั่นก็คือ “ซานฟรานซิสโก” ครั้งนี้เราจะออกไปนอกเมืองกันครับ และแน่นอนว่าเที่ยวนอกเมือง วิธีที่สะดวกที่สุดคงต้องขับรถเที่ยว ที่อเมริกาเขาขับรถคนละฝั่งกับเราเพราะเขาเป็นพวงมาลัยซ้าย แนะนำว่าเรียนรู้กฎจราจรเขาไปก่อนและขับด้วยความระมัดระวังครับ เคยเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับการขับรถในอเมริกาไว้ที่ ลิงค์นี้ ครับ ลองไปย้อนอ่านกันดูได้

 

เราจะพาไปตอนเหนือของซานฟราน ลองมาดูกันซิว่ามีอะไรน่าไปกันบ้างตามรูปบนครับ

 

Point Reyes

อ่านว่า “พอยท์เรส์” ชื่อเต็มๆ ว่า Point Reyes National Seashore อยู่ห่างจากซานฟรานประมาณ 60 กิโลเมตร ที่นี่คล้ายๆ เป็นโซนอนุรักษ์ธรรมชาติตามแนวชายฝั่งทะเล มีหลาย trail ให้มาเดินชมวิวธรรมชาติกัน (ฝรั่งชอบเดินกันมากกก) แต่ที่นิยมกันก็คือ Tomales trail เพราะเป็นแถบอนุรักษ์ tule elks ซึ่งเป็นกวางขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง หาข้อมูลอื่นๆ ของ Point Reyes ได้จาก ลิงค์นี้ ครับ มาดูจุดแวะแถวๆ Point Reyes กันครับ

 

Tomales trail

📸 พิกัดโดยประมาณ: 38.189093, -122.954025

🚗 การเดินทาง: รถยนต์

🤡 ข้อมูลทั่วไป: ระยะทางเดินไป-กลับ เกือบ 10 กิโล! มีไต่เขาบ้างเล็กน้อย ส่วนใหญ่เป็นทางราบ มีปลายๆ trail ที่เป็นพื้นทราย ยิ่งเดินยิ่งเหนื่อย (ฮา) ผมเลยเดินไม่สุด แค่เห็นทะเลไกลๆ กับเห็นฝูงกวางก็โอเคละ (แต่กว่าจะเห็นก็ประมาณ 3/4 ของทางแล้ว เล่นเอาเหนื่อยเลย) ไฮไลท์ของที่นี่ คือ ทุ่งดอกไม้ป่าสีเหลือง สีขาว สีชมพู ตัดกับท้องฟ้าและทะเลสีฟ้า ถ้าโชคดีจะเห็นฝูงไก่งวง กับ tule elks ออกมาหากินตอนบ่ายแก่ๆ

 

พื้นทางเดินหลายช่วงเป็นทราย เดินยากบ้าง และทรายเต็มรองเท้าเลย

 

เดินไปกว่าครึ่งทางก็ได้เจอฝูงไก่งวง

 

และพระเอกแห่งทุ่ง Point Reyes ก็โผล่มาให้เรายลโฉม

มันไม่ได้มาใกล้เรามากนะครับ นี่ใช้เลนส์ซูมเอาที่ระยะ 300 mm

ตุ่มๆ บนหินกลางทะเลนั่นคือพวกนกทะเลทั้งหลาย

 

Lighthouse

📸 พิกัดโดยประมาณ: 37.997828, -123.011990

🚗 การเดินทาง: รถยนต์

🤡 ข้อมูลทั่วไป: ที่อเมริกานี่ที่ไหนมีประภาคาร ที่นั่นจะเป็นที่ท่องเที่ยว ไม่รู้ทำไม (ฮา) ที่นี่ก็เหมือนกัน เขามีพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ด้านในด้วย แล้วก็มีกระดูกปลาวาฬอยู่ด้านหน้า ถ้าโชคดีอาจเห็นปลาวาฬจากจุดชมวิวของประภาคารได้ด้วยครับ

 

รูปบนเป็นวิวช่วงเย็น ตอนนั้นไปถึงกันเย็นมากแล้ว ประตูทางเดินลงไปประภาคารก็เลยปิดไปแล้ว เลยได้แต่ถ่ายรูปจากด้านนอก ตอนหลังได้มีโอกาสมาอีกครั้ง แต่หมอกลงจัดมาก ไม่ได้เห็นวิวอะไรเลย (รูปล่าง)

สีของหินแปลกตามาก เป็นแร่ธาตุและพวก mold

 

ทางเดินจากที่จอดรถ จะมีต้นไม้ขนาดใหญ่เอียงๆ (the leaning tree) เป็นจุดถ่ายรูปคูลๆ อีกที่นึงด้วย ตอนที่ไปมีหมอกลงหนา เลยดูเหมือนดินแดนพิศวงไปหน่อย แต่ก็สวยพิลึก

ที่มันเอียงน่าจะเป็นเพราะอยู่แถวชายฝั่ง และแถวนี้ลมแรงมากๆๆ

 

อุโมงค์ต้นไม้ (cypress tree tunnel)

📸 พิกัดโดยประมาณ: 38.092398, -122.944157

🚗 การเดินทาง: รถยนต์ (ถ้าจอดข้างทาง ให้จอดดีๆ อย่ากินออกมานอกถนนครับ อันตราย และระวังตำรวจด้วยครับ) หรือทัวร์

🤡 ข้อมูลทั่วไป: เป็นอุโมงค์ต้นไม้ที่ถนนด้านหน้าสถานีรับสัญญาณวิทยุ KPH Maritime คล้ายๆ ที่ จ.น่าน ของไทยเลย ถนนเส้นอุโมงค์นี้จะเป็นเส้นแยกออกจากเส้นถนนหลักครับ ให้ตั้ง google map ว่า KPH maritime (หรือตามพิกัดด้านบนก็ได้) ระวังขับรถเลย

 

 

Shipwrecks

📸 พิกัดโดยประมาณ: 38.097229, -122.851897

🚗 การเดินทาง: รถยนต์

🤡 ข้อมูลทั่วไป: เป็นซากเรือที่คนนิยมไปถ่ายรูปมากที่สุดแห่งนึงเลย ไม่รู้ทำไม (อีกแล้ว) ไปจอดรถตามพิกัดด้านบนเลยครับ คงแล้วแต่ดวงว่าจะได้ภาพแบบไหน ขึ้นอยู่กับว่าเป็นช่วงน้ำขึ้นหรือน้ำลง

 

 

 

Muir Woods

Muir Woods (เมียร์วู้ด) ตั้งชื่อตามนักอนุรักษ์ธรรมชาติ “John Muir” ที่เป็นผู้บุกเบิกการก่อตั้งอุทยานแห่งชาติของอเมริกา (แต่คนค้นพบที่นี่จริงๆ คือ William Kent) ที่นี่ห่างจากซานฟรานประมาณ 19 กิโลเมตร เป็นป่าต้น redwood ซึ่งเป็นสนชนิดหนึ่งที่มีขนาดใหญ่มหึมา อาจสูงได้ถึง 115 เมตร และลำต้นใหญ่ขนาดที่เจาะรูแล้วรถยนต์วิ่งผ่านได้เลย อายุอานามถ้าไม่โดนไฟป่าซะก่อนอาจอยู่ได้ถึง 500-800 ปี มีอยู่สองสายพันธุ์หลัก คือ Coast redwood ซึ่งพบมากแถบชายฝั่งของแคลิฟอร์เนีย แล้วก็ที่ Muir wood National Monument นี่เอง และ Giant sequoia ซึ่งพบมากที่อุทยานแห่งชาติ Yosemite ซึ่งสายพันธุ์หลังนี้จะมีลำต้นที่ใหญ่กว่า coast redwood แต่จะเตี้ยกว่า

 

Visitor Center (main trail)

📸 พิกัดโดยประมาณ: 38.189093, -122.954025 (จุด 2 ในรูปแผนที่ด้านล่าง)

🚗 การเดินทาง: รถยนต์สะดวกสุด, ส่วนรถสาธารณะ ลองดูตามเว็บไซด์ได้ครับแต่ไม่แนะนำเพราะรอบรถนานมาก ตัวเองเกือบเอาตัวไม่รอดมาละ เพราะไปลงผิดที่ แทนที่จะได้เดินชิลๆ จาก visitor center แต่ดันไปลงทางต้น trail อีกทาง (Dipsea trail) ที่ต้องเดินขึ้นๆ ลงๆ เขา 2 กิโลกว่าจะมาถึง visitor center (มันเหนื่อยมากนะครับ ขอบอก ดูสภาพตามรูปประกอบ) แถมขากลับยังไม่ทันรถรอบสุดท้ายอีก โชคดีที่โบกรถแล้วมีคนจอดรับ 😅

🤡 ข้อมูลทั่วไป: มีหลาย trail ให้เดิน ถ้าเอาแบบสบายๆ หน่อยก็เดินแค่ main trail จากที่จอดรถ (จุด 2) ตามกรอบสีเหลือง

 

 

วงปีบอกอายุของต้น redwood

ส่วนใหญ่ลำต้นไม่ใหญ่มาก แต่สูงมาก
แต่บางต้นก็ใหญ่มาก ลองดูเทียบกับตัวคนดู

 

Dipsea trail

📸 พิกัดโดยประมาณ: 37.897135, -122.560974 (จุด 1 ในแผนที่ด้านบน)

🚗 การเดินทาง: รถยนต์สะดวกสุด ส่วนรถบัส ผมจำไม่ได้ว่าต้องลงตรงไหน (แหะๆ) เพราะตอนไปนี่คือ ลงรถผิดที่!!! เลยเจอเส้นทางนี้โดยบังเอิญ โดยเริ่มต้น trail ที่จุด 1 ในแผนที่ด้านบนแล้วเดินมาตามเส้นประสีแดงจนถึง visitor center

🤡 ข้อมูลทั่วไป: ทางนี้เป็นทางที่เดินลัดเลาะ Mt Tamalpais มาที่ Visitor center จริงๆ ตอนมาที่ Muir Woods รอบแรกไม่ได้ตั้งใจจะมาเดินสมบุกสมบันเส้นทางนี้เลย แต่ที่รู้จักทางนี้เพราะมาลงรถบัสผิดอย่างที่บอก แต่ก็ได้วิวที่แปลกและสวยไปกว่าที่เดิน main trail ธรรมดา เพราะเดินผ่านป่าชื้น มีมอส เฟิร์น สลับกับต้น redwood เล็กใหญ่ไปตลอดทาง

💡ข้อควรระวัง: ผมไม่เห็นลานจอดรถยนต์ที่จุด 1 นะครับ ไม่แน่ใจว่าถ้าจะเดิน trail นี้ต้องจอดตรงไหน อาจต้องไปจอดที่ visitor center แล้วเดินย้อนทางมา 

 

 

เขียวชะอุ่มชุ่มชื้น

ต้องใช้เลนส์ไวด์ถึงจะพอเก็บภาพได้แต่ก็ไม่หมด นี่ถ่ายที่ระยะ 12 mm (DSLR)

 

 

Napa Valley

🚗 การเดินทาง: รถยนต์ หรือทัวร์

🤡 ข้อมูลทั่วไป: ที่นี่เป็นแหล่งผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงของอเมริกา มีไร่องุ่นและโรงงานทำไวน์เต็มไปหมด ดังนั้นเหมาะกับคนที่หลงรักในการชิมไวน์อย่างยิ่ง ช่วงที่เหมาะที่จะมาคือช่วงฤดูร้อน (กลางปี) ไปจนถึงช่วงปลายปี ร้านชิมไวน์มีหลายร้านหลายที่มากๆ ถ้าสนใจลองค้นดูร้านต่างๆ จาก ลิงค์นี้ ครับ แต่อย่าลืมว่า เมาไม่ขับ!! นะครับ

 

 

 

Sausalito City

📸 พิกัดโดยประมาณ: 37.856954, -122.480205

🚗 การเดินทาง: มาได้หลายทางมาก ทั้ง รถยนต์, เรือเฟอร์รี่ (Golden Gate Ferry), รถสาธารณะ (Golden Gate Transit) หรือขี่จักรยานข้ามสะพาน Golden Gate มาก็ได้

🤡 ข้อมูลทั่วไป: เป็นเมืองตากอากาศบรรยากาศดีเลย อยู่ตรงข้ามเมืองซานฟรานซึ่งเชื่อมถึงกันด้วยสะพาน Golden Gate

 

รูปปั้นแมวน้ำตัวน้ำที่ชายฝั่ง

 

มองเห็นวิวพาโนรามาของฝั่งซานฟราน และ Bay Bridge

 

สามารถเดินเล่นลัดเลาะชายฝั่ง หรือหลายคนก็เช่าจักรยานขี่มาจากฝั่งซานฟราน หรือแบกขึ้นเรือเฟอร์รี่มาขี่เล่นที่นี่ก็ได้

 

มีร้านไอติม อาหาร กิ๊ฟช้อปให้เดินเพลินๆ

 

 

ถ้าแวะมาซานฟรานและมีเวลาเหลือ อย่าลืมเผื่อแผนให้กับพิกัดเล็กๆ เหล่านี้ด้วยนะครับ



 

About Breathe My World 29 Articles
A man who love travelling the world.