วีซ่าท่องเที่ยวนิวซีแลนด์เป็นอีกประเทศที่ไม่ค่อยจะเหมือนประเทศอื่นที่เราคุ้นเคยกัน อย่างเช่น เชงเก้น, สหราชอาณาจักร หรือสหรัฐอเมริกา ตอนแรกจะสับสนหน่อยๆ แต่เอาจริงๆ มันทำให้เราประหยัดและสะดวกพอควรทีเดียวครับ
![](https://breathemyworld.com/wp-content/uploads/2019/09/Cover2.jpg)
เนื่องจากผมมีประสบการณ์แต่การขอวีซ่าท่องเที่ยวแบบกลุ่มอย่างเดียว เลยขอรีวิวเฉพาะแค่ ประเภทท่องเที่ยวแบบกลุ่ม แต่การยื่นแบบเดี่ยวก็ไม่แตกต่างกันครับ ใช้หลักการเดียวกัน (เป็นข้อมูลปี 2019 ครับ)
ข้อแตกต่างหลักๆ จากวีซ่าประเทศอื่น
- กรณีที่เดินทางมากกว่า 2 คน (3 คนขึ้นไป) โดยที่ทุกคนต้องเข้าและออกจากนิวซีแลนด์พร้อมกัน สามารถ ยื่นแบบกลุ่ม (group visa application) ได้ จริงๆ วีซ่าประเทศอื่นก็ยื่นกลุ่มได้นะครับ แต่ของนิวซีแลนด์นี่ถ้ายื่นแบบกลุ่มราคาจะถูกกว่ายื่นเดี่ยวครึ่งต่อครึ่งเลย!!!
- รูปถ่าย ถ่ายเองได้ ไม่ต้องเสียตังค์ไปถ่ายที่ร้านที่ได้มาครึ่งโหลแต่ใช้จริงๆ แค่ 2 รูป
ส่วนเอกสารอื่นๆ ที่ต้องใช้ ก็คล้ายๆ กันกับของประเทศอื่น ไม่ได้มีอะไรพิเศษ - กรอกและ submit ใบคำร้องและเอกสารทั้งหมดได้ทาง online (หรือจะเลือกแบบส่งเอกสารทางไปรษณีย์ก็ได้ แต่ผมว่ายื่น online สะดวกมากๆ)
- หลังจาก submit คำร้องและเอกสารแล้ว สามารถส่งเล่มพาสปอร์ตไปยังศูนย์บริการได้ทางไปรษณีย์ ไม่ต้องขอคิวนัด ไม่ต้องเดินทางไปยื่นเอง ไม่ต้องลางาน แต่ถ้าใครอยากไปยื่นเองที่ศูนย์ TT Service ก็ยังทำได้ครับ (แต่ค่าบริการจะแพงกว่ายื่นทางไปรษณีย์)
- วีซ่าเป็นแบบ eVisa จะไม่มีการประทับหรือติดตัววีซ่าใดๆ ในพาสปอร์ต เขาจะให้ส่งเล่มพาสปอร์ตเพื่อสแกนและเก็บข้อมูลเฉยๆ เสร็จแล้วก็ส่งกลับ ดังนั้น การได้เล่มพาสปอร์ตคืนไม่ได้หมายความว่าวีซ่าผ่านนะครับ ต้องรอผลอีกที
ข้อดีของการทำแบบกลุ่ม
- ราคาถูกกว่าทำแบบเดี่ยว (individual) เกือบ 150 NZD (ถูกกว่า 3,000 บาท!!)
- สามารถกรอกข้อมูล และ submit ทาง online ได้ หลังจากนั้นส่งเล่มพาสปอร์ตไปยังศูนย์ดำเนินการในไทยทางไปรษณีย์ได้ ไม่ต้องเดินทางไปยื่นเอง ค่ายื่นทางไปรษณีย์ก็ถูกกว่าไปยื่นเองอีก
ข้อเสียของการทำแบบกลุ่ม
- วีซ่าแบบกลุ่มจะได้แค่ single entry และระยะเวลาแค่ที่เราเที่ยว แต่ถ้าขอแบบเดี่ยวมักจะได้เป็น multiple entry ระยะเวลาแล้วแต่เขากำหนด แต่ที่ได้ยินมาส่วนใหญ่จะได้ประมาณ 1-2 ปี ดังนั้นถ้าวางแผนจะไปหลายครั้งในช่วง 1-2 ปี ก็ทำแบบเดี่ยวน่าจะคุ้มกว่า
- คนในกลุ่มสามารถเห็นข้อมูลของสมาชิกกลุ่มได้ (เพราะใช้ username และ password เดียวกัน)
- ทำแบบกลุ่มไม่ได้หมายความว่าจะได้วีซ่ายกกลุ่มนะครับ บางคนในกลุ่มก็อาจจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของสถานฑูต
![](http://breathemyworld.com/wp-content/uploads/2019/10/NZ-imm2.png)
สารบัญ
ค่าทำวีซ่าท่องเที่ยวแบบกลุ่ม (ปี 2019)
แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
- ค่าวีซ่า (Immigration costs) จ่ายตอน submit ข้อมูลทาง online เรียบร้อย (หรือถ้าใครไม่ได้ submit ทาง online ก็จ่ายก่อนส่งเอกสารทางไปรษณีย์พร้อมแนบหลักฐานการจ่ายเงินไปด้วย)
- ค่าบริการของศูนย์ดำเนินการ TT Service (Receiving centre fees) ที่นี่เขาจะเอาพาสปอร์ตเราไปดำเนินการเก็บข้อมูลภายหลังจากที่เรา submit คำร้องทาง online เรียบร้อยแล้ว ค่าธรรมเนียมแบ่งเป็น processing fee และ courier fee (ค่าส่งพาสปอร์ตกลับ) ซึ่งถ้ายื่นส่งพาสปอร์ตไปทางไปรษณีย์ ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ประมาณ 600 บาท ซึ่งถูกกว่าไปยื่นเองที่ศูนย์ (ถ้าไปยื่นเองเขาเก็บประมาณ 800 บาท)
![](https://breathemyworld.com/wp-content/uploads/2019/09/Fee.jpg)
![](http://breathemyworld.com/wp-content/uploads/2019/10/NZ-imm2.png)
เอกสารที่ใช้
คล้ายๆ กับวีซ่าประเทศอื่นครับ แต่ทุกอย่าง submit ทาง online ได้ ชนิดของไฟล์เป็น pdf ขนาดไม่เกิน 10 MB แต่ถ้าเป็นรูปก็เป็น jpg ขนาดไม่เกิน 3 MB และเนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษ ถ้าเป็นภาษาไทย ต้องแปลและมีตราประทับ
เอกสาร | คำแนะนำ |
ใบคำร้อง | กรอก online ได้เลยไม่ต้องดาวน์โหลดแบบฟอร์มมากรอก แต่ถ้าจะส่งไปรษณีย์ก็ต้องดาวน์โหลดแบบฟอร์ม (INZ 1017 และ INZ 1021) ก่อน >>> อ่านเพิ่มเติม |
รูปถ่าย |
ตามที่สถานฑูตกำหนด (คร่าวๆ คือ 3.5 x 4.5 เซนติเมตร หรือ 900-1200 x 2250-3000 pixel, ขนาดไฟล์ 500 KB-3 MB, พื้นหลังสีอ่อน ไม่ขาว, ข้อดี คือ สามารถใช้มือถือถ่ายเองได้ไม่ต้องไปร้านให้เสียเงิน แต่ต้องจัดท่าจัดผมให้ตรงเกณฑ์เขาด้วยครับ ไม่แต่งรูปจนเกินจริง ไม่ใช้ app หรือ filter) >>> อ่านเพิ่มเติม |
สำเนาพาสปอร์ต | ได้แก่ หน้าแรก และหน้าอื่นๆ ที่มีวีซ่าประเทศอื่นและการปั๊มตราเข้าออกประเทศ (อันนี้เขาแนะนำกันมาครับว่าให้ถ่ายส่งไปให้หมด) |
สำเนาบัตรประชาชน | เฉพาะด้านหน้าที่มีภาษาอังกฤษ |
หลักฐานการเงิน | ได้แก่ Bank guarantee (ขอที่ธนาคาร) และ Bank statement ย้อนหลัง 6 เดือน (ขอ online ได้) ซึ่งจริงๆ ใช้อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ แต่ผมกันเหนียวเลยส่งไปทั้งสองอย่าง |
ใบจองตั๋วเครื่องบิน | ทั้งขาไปและขากลับ (ใช้ใบจองได้ยังไม่ต้องจ่ายเงิน) |
หนังสือรับรองการทำงาน | แนะนำให้ระบุเงินเดือน และวันที่ลาหยุดด้วย ถ้าใครไม่มี (เช่น ฟรีแลนด์ ค้าขาย ให้เขียนจดหมายชี้แจงรายละเอียดงานและรายได้) |
แผนการเที่ยว (itinerary) | เป็นภาษาอังกฤษ (ตัวอย่างตามรูปล่าง) บางรีวิวแนะนำให้เขียนด้วยว่ามีใครเดินทางไปบ้าง ทริปผมมีคนแยกขอวีซ่าเดี่ยว เลยแยกเป็นหัวข้อว่าใครขอแบบกลุ่มและใครขอแยกบ้าง |
จดหมายแนะนำ (cover letter) | อาจไม่มีก็ได้ แต่ถ้าเรากังวลว่าจะมีเหตุให้เขาสงสัยหรือทำให้วีซ่าไม่ผ่าน ก็ควรเขียนชี้แจงและแนบไปด้วยครับ เช่น วัตถุประสงค์คือไปเที่ยว ไปกี่วัน ไม่ได้นอนโรงแรมแต่นอนรถบ้านเลยไม่มีใบจองโรงแรม, อาชีพเป็นฟรีแลนด์ (ไม่มีจดหมายรับรองการทำงาน), ใครรับผิดชอบค่าใช้จ่าย เป็นต้น |
เอกสารที่ไม่ระบุว่าต้องมี แต่ผมว่าส่งไปด้วยก็ดี | ได้แก่ ใบจองโรงแรม, ใบจองเช่ารถ, ประกันการเดินทาง |
เอกสารที่ไม่ระบุว่าต้องมี และผมว่าไม่ต้องส่งก็ได้ | เช่น สำเนาทะเบียนบ้าน (แปลภาษาอังกฤษ) แต่ถ้าไม่มั่นใจเรื่องงานหรือกลัวเขาคิดว่าเราจะกลับมาไหม ให้ส่งไปด้วยก็เพิ่มความมั่นใจครับ, สำเนาใบขับขี่ (ด้านที่มีภาษาอังกฤษ) |
![](http://breathemyworld.com/wp-content/uploads/2019/09/Itinerary.jpg)
![](http://breathemyworld.com/wp-content/uploads/2019/10/NZ-imm2.png)
สรุปขั้นตอน
- หัวหน้ากลุ่มสมัคร RealMe account
- กรอกข้อมูลของแต่ละคนในกลุ่ม และ submit
- หัวหน้ากลุ่ม submit คำร้องยื่นวีซ่าแบบกลุ่มและจ่ายเงินค่าวีซ่า
- ส่งพาสปอร์ตเล่มจริงทุกเล่มไปที่ศูนย์ TTservice พร้อมจ่ายเงินค่าบริการของศูนย์
- รอรับพาสปอร์ตคืน และรออีเมลแจ้งผล
- นับถอยหลังรอวันเดินทาง (กรณีวีซ่าได้รับการอนุมัติ)
ขั้นตอนที่ 1 – หัวหน้ากลุ่มสมัคร RealMe account
- 1 Group สมัครแค่ 1 account ครับ และทุกคนใน Group ก็ใช้ username และ password เดียวกันในการ submit ใบคำร้องขอวีซ่าของตัวเอง
- เข้าไปที่เว็บไซด์ตาม ลิงค์นี้
- คลิ๊ก “Apply Now” แล้วไปที่แถบสีฟ้าเพื่อ log in หรือ สมัคร account (ตามรูปด้านล่าง) และ ทำตามขั้นตอนจนเสร็จ หลังจากนั้นจะได้อีเมลยืนยัน เราก็กดเข้าไปตรงข้อความ “Verification link” ในอีเมลของเราเพื่อเป็นการยืนยัน account จากนั้นก็เรียบร้อย เริ่มขั้นตอนการยื่นได้เลยครับ
![](https://breathemyworld.com/wp-content/uploads/2019/09/01.jpg)
- หมายเหตุ อย่าไปกดเลือกปุ่มหรือข้อความที่บอกว่า “Verified identity” หรือ “Get verified” เพราะกลุ่มที่ต้อง verified จะเอาไว้ทำพวกบัตรประชาชน ทำพาสปอร์ตใหม่ของเขา ไม่เกี่ยวกับวีซ่านิวซีแลนด์ของเรา (หลายคนกดไปแล้วเขาให้อัพโหลดรูปถ่าย ซึ่งเราส่งไม่ได้ มันจะทำให้เขา reject account เรา แล้วเราก็จะงง (ผมก็งง 555 หลายคนถามมา ก็ไม่รู้จะให้แก้ไขยังไง) ถ้าดันกดไปแล้วแล้วสมัครไม่ได้ ก็ลองใช้อีเมลอื่นสมัครใหม่ดูครับ)
![](http://breathemyworld.com/wp-content/uploads/2019/10/NZ-imm2.png)
ขั้นตอนที่ 2 – กรอกข้อมูลของแต่ละคนในกลุ่ม
หลังจาก log in เข้า RealMe แล้ว จะมีปุ่มในเลือก ไม่ต้องงงครับ สนใจแค่ 2 ปุ่ม คือ
- ปุ่ม Visitor Visa สำหรับกรอกและ submit ข้อมูลส่วนตัวของแต่ละคน
- ปุ่ม Group Application สำหรับหัวหน้ากลุ่ม submit คำขอของทุกคนซึ่งจะทำหลังจากที่ทุกคน submit เอกสารของตัวเองเรียบร้อยหมดแล้ว
![](https://breathemyworld.com/wp-content/uploads/2019/09/Button-list-1.jpg)
- กรอกข้อมูลและ upload เอกสารให้ครบถ้วน
- ไม่ต้องกรอกให้เสร็จในครั้งเดียวก็ได้ สามารถเข้ามา edit หรือเพิ่มเติมได้ภายหลัง ตราบใดที่เรายังไม่ได้กด Submit ในหน้าสุดท้าย
- หัวข้อ “Will this application be submitted together with other visa applications as part of a group?” ให้ตอบ “Yes” ถ้าเผลอไปสมัครแบบเดี่ยวจะโดนคิดค่าธรรมเนียมแบบเดี่ยวนะครับ
- พอเสร็จ จะเข้าสู่หน้า Payment ซึ่งตรงนี้จะยังไม่โดนเก็บเงินนะครับ เขาจะให้ Submit เพื่อรอให้หัวหน้ากลุ่มรวบรวมไปยื่นแบบ group ต่อไปและจ่ายทีเดียว ถ้าโดนเก็บเงินตรงขั้นตอนนี้แสดงว่าอาจกรอกผิดบางขั้นตอน
- Status ในตาราง (รูปด้านล่าง) – “Unsubmitted” หมายถึง กรอกข้อมูลแล้วแต่ยังไม่ได้ submit ซึ่งเราสามารถเข้าไปแก้ไขข้อมูลได้ ส่วน “Ready for group” คือ submit เรียบร้อยพร้อมที่จะให้หัวหน้ากลุ่มเดินเรื่องต่อได้
![](http://breathemyworld.com/wp-content/uploads/2019/09/Submit.jpg)
![](http://breathemyworld.com/wp-content/uploads/2019/10/NZ-imm2.png)
ขั้นตอนที่ 3 – หัวหน้ากลุ่ม submit คำร้อง
- ขั้นตอนนี้ทำโดยหัวหน้ากลุ่มคนเดียว
- เขาจะให้เลือกว่าจะยื่นของสมาชิกคนไหนบ้าง เราก็ติ๊กเลือกรายชื่อไป และให้ระบุว่าใครเป็นหัวหน้ากลุ่ม
- มีให้ upload เอกสารเพิ่มเติมเล็กน้อย คือ แผนการเดินทาง ถ้ามี cover letter ด้วยก็ได้ (จดหมายบรรยายว่าเราจะไปเที่ยวช่วงวันไหนถึงวันไหน ใครไปบ้าง เราจะเข้าออกประเทศพร้อมกัน อะไรประมาณนั้น)
- หลังจากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนจ่ายเงิน สะดวกสุดก็จ่ายผ่านบัตรเครดิต
- เสร็จแล้วจะเข้าสู่หน้ายืนยัน ให้ print หน้านี้ออกมา (รูปด้านล่าง) เพื่อแนบไปในขั้นตอนที่จะส่งพาสปอร์ตทางไปรษณีย์
![](http://breathemyworld.com/wp-content/uploads/2019/09/Confirm-page.jpg)
![](http://breathemyworld.com/wp-content/uploads/2019/10/NZ-imm2.png)
ขั้นตอนที่ 4 – ส่งพาสปอร์ตของทุกคนทางไปรษณีย์
ข้อมูลการส่งเอกสารและราคา processing fee ดูตาม ลิงค์นี้ ครับ เผื่อมีการเปลี่ยนแปลง
ส่งพาสปอร์ตเล่มจริงของทุกคนไปที่ TT Service New Zealand ทางไปรษณีย์ตามที่อยู่ที่ระบุในหน้ายืนยันด้านบนครับ ขั้นตอนนี้สามารถไปยื่นด้วยตัวเองที่ศูนย์ก็ได้ แต่! ค่าธรรมเนียมแพงกว่าส่งทางไปรษณีย์ เอกสารที่ต้องส่งมีดังนี้ครับ
- พาสปอร์ตเล่มจริงของทุกคนในกลุ่ม
- หน้ายืนยันการยื่นคำร้องที่ print ออกมา (ตามรูปในขั้นตอนที่ 3)
- Check list ระบุรายการเอกสารที่เราส่งไปและข้อมูลการติดต่อของหัวหน้ากลุ่ม >>> ดาวน์โหลดเอกสารได้ที่ ลิงค์นี้
- หลักฐานการโอนเงินค่า processing fee แต่ถ้าจะชำระผ่านบัตรเครดิต ให้กรอกข้อมูลใน Credit Card Authorization Form แนบไป แล้วเขาจะตัดบัตรเราหลังจากที่เขาได้เอกสารแล้ว >>> ดาวน์โหลดเอกสารได้ที่ ลิงค์นี้
![](http://breathemyworld.com/wp-content/uploads/2019/10/NZ-imm2.png)
ขั้นตอนที่ 5 – รอ รอ รอ
- จากนั้นก็รอครับ หลัง TT Service ได้รับพาสปอร์ตเรา วันรุ่งขึ้นเขาจะอีเมลมาบอกรายละเอียดต่างๆ เราสามารถติดตามสถานะเอกสารและพาสปอร์ตของเราได้ที่ ลิงค์นี้ ครับ ว่าทางศูนย์ส่งให้ทางสถานฑูตดำเนินการหรือยัง
- แต่ถ้าจะติดตามสถานะของวีซ่าหลังจากที่ศูนย์ส่งเรื่องเรียบร้อยแล้ว ให้ตามที่เว็บของ immigration ได้เลย (กด log in ด้านมุมบนขวา เลือก visitor visa และใส่ RealMe account เดิม ตามรูปล่างครับ)
![](https://breathemyworld.com/wp-content/uploads/2019/10/Login.jpg)
- หากเขาต้องการเอกสารเพิ่มเติม เขาจะอีเมลมาแจ้งเราอีกที ดังนั้น อย่าลืมเช็คอีเมลตัวเองด้วย (junk mail ด้วยนะครับ)
- เมื่อได้รับอีเมลว่าได้วีซ่าแล้ว (เย่) ให้เข้าไปดาวน์โหลดเอกสารและ print ติดตัวไว้ เผื่อได้ใช้ตอนผ่าน ตม.
- ปัญหาอยู่ที่ว่า “รอนานแค่ไหน” อันนี้ตอบยากครับ แล้วแต่ช่วงและดวงเลย แต่ส่วนใหญ่จะช้า บางคน 5 วันก็อนุมัติแล้ว บางคนรอไปถึง 40 วัน!!
- ช่วง high season ของการขอและรอนานที่สุดเขาว่าเป็นช่วง พ.ย. – มี.ค. สามารถเข้าไปดูสถิติเฉลี่ยของช่วงนั้นว่ารอกี่วันถึงจะอนุมัติที่เว็บของ immigration ตัวอย่างของรูปล่างเป็นช่วงที่ผมขอคือปลายเดือนกันยายน 2562 จะเห็นว่าไม่ได้เร็วแบบวีซ่าเชงเก้นหรือประเทศอื่นๆ นะครับ
- หากนานผิดปกติ ลองโทรหรืออีเมลไปถามได้ตาม ลิงค์นี้ ครับ
![](http://breathemyworld.com/wp-content/uploads/2019/10/Process-time-copy.jpg)
- ของผมยื่นเรื่องประมาณปลายเดือน ก.ย. ใช้เวลารอทั้งหมด 14 วันทำการนับจากวันที่เขาส่งเรื่องให้ทาง immigration พอได้แล้วเขาจะส่งอีเมลมาบอกว่ามีเอกสาร upload ไว้ใน account ที่เราสมัครไว้ เราก็กดตาม link เข้าไปดู จะเห็นเอกสารที่ชื่อ “Letter from immigration New Zealand” (ตามรูป) เราก็กดดาวน์โหลดแล้ว print เก็บไว้เผื่อเขาขอดูตอนผ่าน ตม.
![](https://breathemyworld.com/wp-content/uploads/2019/10/Screen-Shot-2562-10-11-at-07.07.41-1024x335.png)
![](http://breathemyworld.com/wp-content/uploads/2019/10/NZ2.png)
ดังนั้นแนะนำว่ารีบขอแต่เนิ่นๆ ครับ เริ่มขอได้ 90 วันก่อนการเดินทาง ไม่แนะนำให้ขอช้ากว่า 30 วันก่อนเดินทางครับ หลายคนวืดวีซ่ามาแล้ว
![](http://breathemyworld.com/wp-content/uploads/2019/10/NZ-imm2.png)
ขั้นตอนที่ 6 – ตะลุยนิวซีแลนด์
ได้วีซ่าแล้วก็นับวันรอออกเดินทางกันเลย! ยังครับ ผมยังไม่ได้ไป อีกสองเดือนนู่น ช่วงต้นเดือนธันวาคมพอดี เป็นช่วงเข้าฤดูร้อนของที่นั่น หวังว่าฟ้าจะใส ดอกไม้จะบาน ถ้าไปแล้วคืบหน้าอย่างไรจะมาเล่าให้ฟังอีกทีครับ
UPDATE!! กลับมาเรียบร้อยละครับ ติดตามได้ที่ลิงค์ด้านล่างเลยครับ
ตอนที่ 1 นิวซีแลนด์แสนสะบักสะบอม (Ep. 1 เกริ่นไปบ่นไป)
ตอนที่ 2 >>> Coming soon!
สอบถามค่ะ ตอนที่สมัคร Realme ตอน verified มีให้ถ่ายรูปยืนยันตัวตนมั้ยคะ พอดีมี email มาบอกว่า realme application has been canceled เพราะไม่ได้ถ่ายรูปยืนยันตัวตน งงมาก แบบนี้ต้องแก้ไขยังไงคะ ขอบคุณมากค่ะ
ขอบพระคุณสำหรับข้อมูลครับ
จะสอบถามวีซ่ากลุ่ม นิวซีแลนด์ครับ ไม่ทราบพอจะขอไลน์หรือเบอร์ติดต่อได้มั้ยครับ