ประเดิม EP แรกนี้ด้วยปัญหาน่าปวดหัว ที่ตอนซื้อรถไม่คิดว่าจะเป็นปัญหา ตอนที่เขียนนี่รับรถมาได้ 2 สัปดาห์ครับ

#รีวิว Outlander PHEV แบบคนรู้น้อยค่อยๆ เรียนรู้ไป #เขียนตามการใช้จริงลองผิดลองถูก #ผิดถูกยังไงแนะนำได้ครับ

ตอนซื้อรถหวังจะได้ใช้รถชาร์จไฟฟ้าเพื่อประหยัดค่าน้ำมัน แต่รอแล้วรอเล่าก็ยังไม่ได้ติดที่ชาร์จไฟที่บ้านซะที เลยต้องตะลอนๆ ไปหาสถานที่ชาร์จตามที่ต่างๆ แบบตาบอดคลำช้าง (จริงๆ จะวิ่งแบบไฮบริดก่อนก็ได้ แต่เพราะอยากลองใช้แบบไฟฟ้าบ้าง ขี้เกียจรอจนได้ติดที่ชาร์จ ซึ่งคาดว่าน่าจะ 2-3 เดือน) เพราะไม่มีความรู้อะไรเลยเกี่ยวกับรถไฟฟ้าและสถานีชาร์จไฟ
 
🔌 ที่ชาร์จของรถเป็นแบบ Type 1 และ CHAdeMo (ชาเดอโม่ะ…ชื่อน่ารักดี ย่อมาจาก Charge de move) ซึ่งเอาจริงๆ หาจุดชาร์จยาก เพราะส่วนใหญ่ของบ้านเราจะเป็น type 2 สำหรับ AC (ชาร์จแบบปกติกระแส AC) และ CCS type 2 (ชาร์จเร็วกระแส DC)
 
🔌 แต่อย่าเพิ่งเสียใจไป เพราะมิตซูแถมสายชาร์จแบบ type 2 to type 1 มาให้สำหรับเสียบตู้ชาร์จที่เป็น type 2….เย่!! แต่ดีใจได้แป๊บเดียว เพราะลองเอาสายนี้ (สายสีส้ม) ไปต่อกับหัว type 2 ที่สถานีชาร์จของ EA anywhere (ที่มีสถานีเยอะมาก) และ EV station ของปตท. แต่เสียบไม่สนิท!!! (ช็อค 1) 😳
 
 
 
จบข่าว….ชาร์จไม่ได้ 
สอบถามจากผู้รู้ในไลน์กลุ่มผู้ใช้งาน Outlander PHEV บอกว่าสายสีส้มที่มิตซูบิชิแถมมาใช้เสียบได้กับสถานีที่มีช่องเสียบที่ตู้เท่านั้น (คือต้องเสียบกับตู้) แต่เอามาต่อเป็น adapter กับปลายสายจากตู้ชาร์จแบบนี้ไม่ได้ 😭
 
 
🔌 ยังงงว่าทำไมไม่ทำหัวชาร์จตัวผู้ตัวเมียให้มัน universal เสียบได้ทุกแบบ แต่คิดว่าคงเป็นเหตุผลทางเทคนิคว่าจะใช้เสียบตู้หรือไว้ต่อเป็นสาย adapter มากกว่า (ความยาวของหัวที่จะใช้เสียบมันยาวไม่เท่ากัน หัวแถมของมิตซูจะยาวกว่าซึ่งสายนี้จะใช้เสียบกับตู้ แต่หัว Duosida ที่จะเสียบเพื่อเป็น adapter กับปลายสายจากตู้มันจะสั้นกว่า) ดังนั้น เราต้องซื้อสาย adapter ของ Duosida เพื่อใช้ต่อกับปลายสายจากสถานีอีก 5,900 บาท!! (ช็อค 2) 😳
 
 
 
🔌 เลยลองไปหาๆ ดูใน Aliexpress ดู ปรากฎราคาถูกกว่าเยอะเลย คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 3,000 บาท ค่าภาษีอีกไม่ถึงพัน รวมๆ แล้วก็ถูกว่าสองพันแน่ะ เลยสั่งมา ส่งเร็วด้วยแฮะผ่าน UPS ใช้เวลา 4 วันถึง ทันใจดีจริงๆ
 
🔌 หลังจากได้ของแล้วเลยเอาไปลองใช้ซะเลย ปรากฎใช้ได้ไม่มีปัญหา เป็นอีกทางเลือกนึงของคนที่ยังรอจุดชาร์จที่บ้านและใจร้อนอยากลองใช้รถชาร์จไฟแบบผม แล้วก็มีเผื่อไว้เวลาไปจอดที่ห้าง (ตอนที่ห้างเปิดแล้วหลังจากพ้นโควิดวิกฤต) จะได้ชาร์จที่ตู้ type 2 ได้ด้วย
 
 
 
 
🔌 เอาจริง ๆ ถ้าที่บ้านผมได้ติดจุดชาร์จแล้ว คงไม่ซื้อ adapter เพราะกลับไปชาร์จที่บ้านก็ได้ แต่ที่ซื้อนี่เพราะใจร้อนอยากลองชาร์จดูครับ
 
🔌 ถ้าขับจนรถไม่ใช้ไฟฟ้าแล้ว ไม่ได้แปลว่าแบตหมดลูก ในความเป็นจริงแบตจะเหลือประมาณ 25-30%
 
🔌 ปกติผมจะแวะชาร์จเร็ว CHAdeMo ที่ PEA ถนนงามวงศ์วานจนได้ 80% ใช้เวลาประมาณ 25 นาที (ปกติการชาร์จเร็วจะชาร์จได้แค่ 80% เพื่อความปลอดภัยของแบต) ถ้าว่างๆ ก็จะมาแวะชาร์จปกติที่ ปตท ต่ออีกประมาณ 1-2 ชม. แบตก็เกือบเต็ม 100% แล้ว (ถ้าชาร์จปกติอย่างเดียวจะใช้เวลาประมาณ 4 ชม.)
 
 
🔌 ค่าชาร์จที่ PEA ตกหน่วยละประมาณ 7 บาทกว่าๆ แต่ช่วง off peak หลังสี่ทุ่มถึงแปดโมงเช้านี่เหลือ 4 บาทเองนะ แต่!!! ประตู PEA ปิดจ้า จบข่าว ชาร์จได้แต่ช่วงพีค 😭 สรุปสนนราคาก็ประมาณ 56 บาทต่อการชาร์จ 1 ครั้ง จะวิ่งได้ประมาณ 33-40 กิโล (ขึ้นกับการเปิดปิดแอร์และการขับขี่)
 
🔌 ส่วนการชาร์จปกติ ที่ EV ปตท ตอนนี้ ฟรีจ้า 😍 แต่ถ้าที่ EA ก็ชั่วโมงละ 50 บาท
 
🔌 พอได้ลองชาร์จเต็ม หน้าปัดรถขึ้นว่าวิ่งได้ 59 กิโล แต่พอปิดแอร์ ระยะทางขึ้นไป 70 กิโล 😍 ฟินกันไป (แต่ขับจริงไม่ถึงหรอก)
 
 
 
🔌 แอพที่ใช้ในการหาจุดชาร์จที่ใช้บ่อยมี EA anywhere, Plugshare, PEA Volta, Elexa, MEA, Greenlots, Evolt
 
 
รอติดจุดชาร์จที่บ้าน คงใช้งานได้สนุกกว่านี้
.
.
ลิงค์บทความที่เกี่ยวข้อง