ช่วยไลค์ช่วยแชร์ครับ

 

มาต่อกันที่ EP. 2 กับ accessory ที่ดูไม่จำเป็น แต่อยากได้กันครับ

#รีวิว Outlander PHEV แบบคนรู้น้อยค่อยๆ เรียนรู้ไป #เขียนตามการใช้จริงลองผิดลองถูก #ผิดถูกยังไงแนะนำได้ครับ

 

 

ตอนขับรถคันเดิม ใจก็อยากจะมี Apple Carplay ไว้ซะหน่อยจะได้ดูแผนที่กับแอพต่างๆ ทางหน้าจอวิทยุรถได้ ตอนนี้มาใช้คันที่มีมาให้แล้ว แต่ก็ยังหาเรื่องเสียตังค์เปลี่ยน Apple เป็น Android อีกแน่ะ 😳 ทำไมน่ะเหรอ?
 
⚡ เล่น Youtube/ดู TV/Netflix ได้ เอาจริงๆ อยากดูแต่ Youtube มากกว่า เพราะ Netflix ถ้าให้ได้อรรถรสต้องดูจากจอทีวี (และต้องอ่าน subtitle ด้วย 😂) ‼️ จริงๆ แล้วที่ Apple Carplay ไม่สามารถเล่น Youtube ได้เพราะเหตุผลในความปลอดภัยครับ ‼️ ไม่ควรดูหนังตอนขับรถ บางประเทศผิดกฎหมายด้วย ในบ้านเราถ้าใครจะดูต้องขับด้วยความระมัดระวังมากๆ ครับ แต่หลายคนจุดประสงค์เพื่อให้คนนั่งดูเป็นหลักมากกว่า
 
⚡ เมื่อก่อนอุปกรณ์ลักษณะนี้จะเป็นแบบสะท้อนจอ (wireless mirror interface) คือเสียบ USB กับรถแล้วสะท้อนจอมือถือขึ้นจอรถยนต์ ซึ่งตอนนี้ราคาก็จะถูกกว่า อยู่ที่ประมาณ 2000-4000 บาท
 
⚡ ส่วนที่ผมใช้นี่จะเป็นคล้ายๆ กล่องแอนดรอยด์ของทีวีเลย จะดาวน์โหลดแอพเข้าในกล่อง แล้วสามารถเปิดดูบนจอวิทยุรถได้อย่างอิสระจากมือถือ สนนราคาพอๆ กันเกือบทุกยี่ห้อ คือประมาณ 8,900 บาท ถ้าลองหาดูทาง Aliexpress ของจีนก็จะถูกกว่าเล็กน้อย คิดกับการรอส่ง/ภาษี/มีปัญหาแล้วไม่รู้จะถามใคร ซื้อเมืองไทยดูจะคุ้มกว่า
⚡ ในท้องตลาดมีหลายยี่ห้อมาก ทำไมถึงเลือก Novel Carplay Touch (ผมไม่มีส่วนกับผลิตภัณฑ์ ไม่มีค่าโฆษณาครับ เขียนจากความคิดเห็นจากการใช้จริง) มาดูกันเลย…
UPDATE กันยายน 2565 ได้ลอง Android Carplay ตัวใหม่ ไฉไลกว่าเดิม คือ Carlinkit รู้สึกว่าเสถียรและเร็วกว่าครับ มี Built-in GPS ด้วย ใส่ซิมได้ด้วย ทำให้เสียบกล่องตัวเดียวจบ ไม่ต้องเดินสายติดกล่อง GPS ให้วุ่นวายเหมือน Novel เดิมของผม รูปอยู่ท้ายบทความครับ
 
 
🎸 สเปคเครื่องหลักๆ ของแต่ละยี่ห้อไม่ได้ต่างกัน (Ares, HMS และของจีนอีกมากมาย เผลอ ๆ อาจทำมาจากโรงงานเดียวกัน แต่แค่มาเปลี่ยนยี่ห้อขาย) ทั้ง RAM/ROM/Android version/แค่เสียบก็ดูได้ทันที/มีแอพที่ดาวน์โหลดเพิ่มได้จาก google play ฯลฯ ซึ่งจะไม่ขอพูดถึงเพราะหาดูรีวิวได้มากมาย จะมาบอกเฉพาะสิ่งที่ผมงงตอนหาข้อมูลและรีวิวมักไม่ได้พูด
 
🎸 สิ่งที่ทำให้เลือก Novel Carplay Touch คือ…💕 แบ่งสองหน้าจอได้ 💕 และสามารถเชื่อม iPhone ทำเป็น Wireless Carplay ได้ (ซึ่งอันนี้ชอบมากเพราะเดิมต้องต่อสายเกะกะถึงจะเล่น Apple Carplay ได้)
 
 
หน้าจอ interface ก็ดูทันสมัยเหมือนโทรศัพท์ android ทั่ว ๆ ไป
 
 
 
 
 
🎸 Wireless Carplay นี้ ตอนแรกที่ผมลองใช้ นึกว่ารถรุ่นนี้จะไม่รองรับ เพราะพอเลือกเมนูแล้ว เครื่องก็เด้งออก และนิ่งไปซักพัก 😳 จนถอดใจละ แต่อยู่มาวันหนึ่ง รอไปอึดใจใหญ่ๆ (ประมาณ 30 วิ) อยู่ๆ ก็เด้งมาเป็นหน้าจอ Apple Carplay เฉย สรุปว่าถ้าจะใช้ฟังก์ชั่น Wireless carplay ก็ต้องอดทนรอนิดนึง
 
 
 
 
 
เวลาจะออกจาก Wireless Carplay เพื่อไปหน้าจอหลักของกล่อง ก็กดเมนู Media Cast ครับ แต่ยังเจอปัญหาว่าพอออกมาแล้วมันค้างไปเลย ยังหาทางแก้ไขไม่ได้
 
 
 
 
🎸 ในกล่องจะแถม GPS Module มาให้ แล้วเราจำเป็นต้องติดไหม ⁉️ เพราะเวลาใช้กล่องก็ต่อ hotspot ของมือถืออยู่แล้ว ทำให้ผมคิดเอาเองว่าไม่ต้องติดก็ได้มั้ง…แต่คำตอบคือ ต้องติดครับ ไม่งั้นกล่องจะตรวจสอบตำแหน่งที่อยู่ไม่ได้ แต่ถ้าใครไม่ใช้ Map ก็ไม่ต้องติดครับ วิธีติด GPS module ก็ไม่ยุ่งยาก แค่เอาไปให้ร้านที่ซื้อเขาติดให้ 🤣 ทำเองไม่เป็น แต่จริงๆ ก็ไม่ได้ยากครับ เดินสายซ่อนในลิ้นชักแล้วไปจิ้มกับฟิวส์อะไรซักอย่าง 
 
 
 
🎸 ยังสามารถใช้ ฟังก์ชั่นอื่นๆ ของรถที่ต้องออกจอได้อย่างปกติ เช่น จอรอบคัน, จอมองหลังเวลาถอย, ปุ่มเพิ่มลดเสียง
 
 
 
🎸 คุณภาพเสียง เวลาฟังเพลง/ดู Youtube ไม่ drop ไม่ delay
🎸 Google map นำทางได้ดี ไม่ delay (แต่ตอนเปิดแอพหรือโหลดแผนที่จะช้านิดนึง)
🎸 การใช้โทรศัพท์ เราจะต่อ bluetooth มือถือเข้ากับกล่อง และโทรโดยกดผ่านเมนู BT phone ดังนั้นเวลาใช้โทรจะแยกกับระบบรถเดิมเลย เสียงออกลำโพงปกติ ชัดแจ๋ว คนฟังก็ได้ยินชัดเช่นกัน
 
 
 
 
🎸 สามารถฟังวิทยุได้โดยใช้เมนู Media ของรถปกติ แล้วค่อยมาเปิดใช้งานแอพอื่นๆ ของกล่องได้พร้อมๆ กันโดยยังฟังวิทยุได้
🎸 เท่าที่ใช้งานมายังใช้แต่ Google map, Spotify, Youtube, LooxTV เล่นได้ดีไม่มีปัญหา
 
สิ่งที่ขัดใจ…
 
👎 การตอบสนองจะช้าหน่อย หน่วงๆ ช่วงแรกยังไม่ชินทำให้รำคาญบ้างเหมือนกันว่า เอ๊ะ ตกลงเรากดหรือยัง กว่าจะโหลดขึ้นก็ใช้เวลาหน่อย ไม่รู้ว่ายี่ห้ออื่นจะหน่วงแบบนี้ไหม
👎 เวลาต่อกับกล่อง ถึงเขาจะบอกว่ายังใช้ระบบต่างๆ ของรถได้ แต่บางฟังก์ชั่นก็ไม่ได้ เช่น ปุ่มเลื่อนเพลงที่พวงมาลัยเวลาฟัง Spotify, เวลาโทรศัพท์ใช้กดปุ่ม phone ที่พวงมาลัยหรือที่วิทยุโดยตรงไม่ได้ ต้องกดเมนู BT phone ของตัวกล่อง
👎 เวลาใช้ Wireless Carplay แล้วกดที่เมนู Media Cast เพื่อจะออกมาหน้าเมนูหลักของกล่อง แต่พอออกมาแล้วมันแฮงค์ ค้างไปเลยที่หน้าเมนูหลัก กำลังลองหลายๆ ทีดูว่าจะเป็นทุกครั้งไหม ยังหาทางแก้ไขไม่ได้ ต้องถอด USB แล้วเสียบใหม่ตลอด
👎 ฟังก์ชั่นโทรศัพท์ เสียดายไม่มีเมนู Favorite contact ให้
 

New Update!

Carlinkit
🎸 ตัวนี้สเปค Android 11, RAM 3, ROM 32 (มีตัว RAM 4, ROM 64 ด้วยครับ แต่แพงกว่าประมาณ 1-2 พันบาท)
🎸 มี build-in GPS ใช้งานสะดวกไม่ต้องติดกล่อง GPS เพิ่ม
🎸 ใส่ซิมได้ (ถ้าไม่ใส่ก็เชื่อมต่อ hotspot ของมือถือได้เช่นกัน) ทำให้ไม่ต้องนั่งกดต่อ hotspot ให้เสียเวลา
🎸 ขนาดเล็ก บาง ดูหรูทีเดียว
🎸 รู้สึกว่าเร็วและหน่วงน้อยกว่าตัวเดิมครับ กดสลับไปมาระหว่างวิทยุเดิมของรถ, apple carplay, กล่อง android ได้โดยไม่แฮงค์
🎸 ใครสนใจลองหาใน Shopee, FB Marketplace ดูมีขายถูกๆ อยู่ที่ 4,600-4,900 บาท (ราคา ก.ย. 2565)