สารบัญ
สิ่งที่คิด หลายครั้งก็ไม่ใช่สิ่งที่เป็นจริงเสมอไป
เวลาพูดถึงอเมริกา เมื่อก่อนผมจะนึกถึงแต่เมืองใหญ่ที่เจริญ ผู้คนขวักไขว่ วุ่นวายแต่เป็นระเบียบ สถานที่ทันสมัย หลังจากมาได้สัมผัสจริงๆ จะเป็นตามที่ผมคิดไว้หรือเปล่า ตามมาดูกันครับ…
จริงๆ ที่ผมกล่าวไปด้านบนมีความจริงแค่ส่วนเดียว ~ อเมริกามีทุกรูปแบบ เมืองที่ทำให้ฝันผมสลายตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบออกจากรถไฟ (ความเห็นส่วนตัวครับ เพราะมีหลายคนก็ชอบเมืองนี้มากๆ) คือ นิวยอร์ค มันดูสับสน วุ่นวาย สกปรก แต่ก็ให้บรรยากาศของ “city life” ได้ดีมาก
ประเทศสหรัฐอเมริกาประกอบด้วย 50 รัฐ แบ่งเป็นภูมิภาคต่างๆ ได้ 6 ภูมิภาค คือ
- New England – ประกอบด้วยรัฐ Maine, New Hampshire, Vermont, Massachusetts, Connecticut, Rhode Island
- Middle Atlantic – ประกอบด้วยรัฐ New York, New Jersey, Pennsylvania, Delaware, Maryland
- South ประกอบด้วยรัฐ – Virginia, West Virginia, Kentucky, Tennessee, North Carolina, South Carolina, Georgia, Florida, Alabama, Mississippi, Arkansas, Louisiana, และพื้นที่บางส่วนของรัฐ Missouri, Oklahoma และ Texas ฝั่งตะวันออก
- Midwest – ประกอบด้วยรัฐ Ohio, Michigan, Indiana, Wisconsin, Illinois, Minnesota, Iowa, North Dakota, South Dakota, Nebraska, Kansas, และพื้นที่บางส่วนของรัฐ Missouri และ Colorado
- Southwest – ประกอบด้วยรัฐ Texas ฝั่งตะวันตก ตอนใต้ของรัฐ Oklahoma, New Mexico, Arizona, Nevada และ California ตอนใต้
- West – ประกอบด้วยรัฐ Colorado ฝั่งตะวันตก, Wyoming, Montana, Utah, California, Idaho, Oregon, Washington, Nevada ฝั่งเหนือ, Alaska และ Hawaii
(ตัวหนังสือสีส้ม คือ รัฐที่ผมเคยได้ไปเที่ยวเมืองในรัฐนั้น)
https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Map_of_USA_showing_state_names.png
5 เมืองแรก
San Francisco ~ เมืองแห่งสายหมอก
ตามความเห็นส่วนตัว ผมคิดว่าซานฟรานซิสโกเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดเมืองหนึ่ง เพราะอากาศค่อนข้างดีทั้งปี ไม่หนาวและไม่ร้อนเกินไป ช่วงฤดูร้อนจะมีหมอกมากหน่อยโดยเฉพาะบริเวณชายฝั่ง แต่ก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของที่นี่โดยเฉพาะคนชอบถ่ายรูปสะพาน Golden Gate กับสายหมอก
Golden Gate Bridge สัญลักษณ์ของซานฟรานซิสโก ถ่ายมุมไหนก็สวย
สะพานกับสายหมอกแบบ low fog ทำให้เห็นเหมือนสะพานลอยอยู่บนปุยเมฆ
The Palace of Fine Art
บ้านเรือน ยังคงเป็นบ้านเดี่ยวติดๆ กันซะส่วนใหญ่คล้ายทาวน์เฮ้าส์บ้านเรา ยังไม่ค่อยมีอพาร์ตเมนท์หรือคอนโดให้เห็นมากนักเหมือนเมืองใหญ่ๆ เช่น นิวยอร์ค ยกเว้นในโซน downtown สถาปัตยกรรมของบ้านจะเป็นแบบวิคตอเรียนสไตล์ สีสันสวยงามและรูปทรงต่างๆ กันไป ทำให้ดูสวยสะดุดตากว่าเมืองอื่นๆ ในอเมริกา
Seven Ladies ที่ Alamo Square
Downtown ของซานฟรานซิสโก นักท่องเที่ยวเยอะในช่วงกลางวันทุกวัน มีรถราง (cable car) ซึ่งเดินรถโดยใช้แรงคนโยก เป็นสัญลักษณ์หนึ่งของซานฟรานที่นักท่องเที่ยวควรมีโอกาสได้นั่งซักครั้ง แต่บริเวณ downtown จะมีคนไร้บ้านอยู่พอสมควรโดยเฉพาะบริเวณของ Civic Center โดยปกติเขาจะไม่ค่อยคุกคามเรามากนัก แต่ก็ควรระวังไว้ด้วยครับและไม่ควรมาเดินตอนกลางคำ่กลางคืน
Transamerica Pyramid และ San Francisco Skyline
Coit Tower และ San Francisco Skyline
ซานฟรานซิสโกยังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจอีกมากนะครับ ที่นี่เดินทางภายในเมืองสะดวกมาก รถสาธารณะเข้าถึงเกือบหมด ไว้มาติดตามต่อกันได้ในกระทู้ต่อๆ ไปครับ
มหานครนิวยอร์ค ~ เมืองที่ไม่เคยหลับไหล
เมืองใหญ่ที่หลายๆ คนใฝ่ฝันจะได้มาเยือน แต่พอมาแล้ว…เป็นเมืองที่ผมชอบน้อยที่สุด เพราะเรื่องของความสะอาด ความวุ่นวาย ความปลอดภัยและค่าครองชีพ 🙁 แต่หลายคนก็ชอบเมืองนี้มากนะครับ แล้วแต่ความชอบแต่ละคน
เทพีเสรีภาพ สัญลักษณ์สำคัญของประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นประติมากรรมโลหะสำริด สวมมงกุฎ 7 แฉกซึ่งหมายถึง 7 ทวีป 7 คาบมหาสมุทร ในท่ายืนชูคบเพลิงด้วยมือขวาและมือซ้ายถือแผ่นจารึกประกาศอิสรภาพ เท้าข้างหนึ่งมีโซ่ตรวนขาดสะบั้นสื่อถึงความหลุดพ้นจากการเป็นทาส เป็นของขวัญจากชาวฝรั่งเศสเนื่องในวันเฉลิมฉลองวันชาติของอเมิรกาครบ 100 ปีในวันที่ 4 กรกฎาคม 1876
9/11 memorial ~ อนุสรณ์สถานของเหตุการณ์ก่อการร้ายเมือง 9 กันยายน 2001
Time Square ~ แหล่งช้อปปิ้ง ร้านค้า ร้านอาหารมากมาย เป็นที่ๆ ทำให้นิวยอร์คได้ฉายาว่าเป็นนครที่ไม่เคยหลับไหล
Washington DC ~ ศูนย์กลางความยิ่งใหญ่
เป็นเมืองที่มีความสำคัญ มี landmark ของอเมริกาหลายๆ ที่ เช่น White House, National Monument, Smithsonian Institute ซึ่งเป็นย่านที่มีพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ให้เข้าชมฟรีมากมาย ถ้าชอบศึกษาประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ เทคโนโลยีไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ ช่วงที่ผมชอบมากที่สุดของที่นี่คือ ช่วงสัปดาห์ที่ 1-2 ของเดือน เม.ย. เพราะเป็นช่วงที่ ซากุระ และ แมคโนเลียบานสะพรั่ง สวยมากๆ
US Capitol (ตึกรัฐสภา)
The Washington Monument เป็นแท่งเสาหินอ่อนสูง 555 ฟุต สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์และเป็นเกียรติแก่ จอร์จ วอชิงตัน ประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกา
The Smithsonian Institute ประกอบไปด้วยพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ถึง 13 แห่ง และสวนสัตว์ 1 แห่ง
Cherry และ Magnolia blossom
Sleepless in Seattle
เป็นเมืองท่าที่สำคัญของรัฐ Washington หลายๆ คน (ที่มีอายุหน่อย 555) คงรู้จักเมืองนี้จากหนังเรื่อง Sleepless in Seattle ~ เมืองนี้ดูเป็นเมืองไม่ค่อยมีที่เที่ยวมากนัก แต่สามารถขับลงไปทางใต้เพื่อไปยัง Portland และ Oregon ซึ่งมีอุทยานแห่งชาติที่น่าไปเหมือนกัน แต่ผมยังไม่เคยไป ผมมีเวลาอยู่ที่ Seattle แค่ 1 วัน เลยไปไหนไม่ได้มาก
Space Needle หอสูงชมวิวเมือง
Pike Market เป็นตลาดขายของสด และอาหาร
อีกที่ๆ ขาดไม่ได้ถ้ามา Seattle คือ ร้าน Starbuck แห่งแรกของโลก (ดูๆ ก็ไม่ต่างอะไรจากที่อื่น เข้าไปโผล่ๆ ดูเฉยๆ แล้วไปซื้อสาขาอื่นดีกว่า 555 ไม่ต้องรอคิว เพราะคนเยอะมากๆๆๆ)
Museum of Flight เป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับการบิน เครื่องบิน ยานอวกาศที่ดีที่สุดในอเมริกา คนที่ชอบเครื่องบินน่าจะชอบมากครับ
San Diego ~ เสน่ห์เมืองท่าแคลิฟอร์เนีย
อยู่ทางตอนใต้สุดของ California เดิมเป็นเมืองท่าที่สำคัญของแคลิฟอร์เนีย มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายที่ที่มีชื่อเสียง เช่น Seaworld, สวนสัตว์, Old Town, Balboa Park เป็นต้น
Carlsbad Flower Field ~ อยู่ห่างออกมาจากใจกลาง San Diego เป็นทุ่งดอกไม้ที่จะเปิดให้ชมในช่วงประมาณเดือน มี.ค.-พ.ค.ของทุกปี
Sea World ~ เป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่มาที่ San Diego (และยังมี San Diego Zoo อีกด้วย แต่ผมไม่ได้ไปครับ)
Downtown ~ มีร้านอาหารมากมายและมีทางเดินเลาะไปตามริมทะเล
Balboa Park ~ เป็นสวนสาธารณะ และมีพิพิธภัณฑ์มากมาย (อารมณ์คล้ายๆ กับ Smithsonian ที่ Washington DC แต่ไม่ฟรี)
Old Town ~ เป็นเมืองเก่าของ San Diego มีร้านค้า ร้านอาหารสไตล์เม็กซิกันมากมาย
วิวเมือง San Diego จากเกาะ Coronado
5 เมืองแรก เป็นอย่างไรบ้างครับ
สีสันของเมืองใหญ่แต่ละเมืองมีเสน่ห์แตกต่างกันไป ถ้ามีเวลาพอนอกจาก landmark ต่างๆ ที่คนนิยมไป อย่าลืมค้นหาสถานที่ unseen ต่างๆ มันจะทำให้เราเต็มอิ่ม (ฟิน) และเรียนรู้ความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของเขาได้ดียิ่งขึ้น
ติดตามเมืองต่อๆ ไปกันต่อกระทู้หน้านะครับ ขอบคุณครับ
รูปสวยมาก เรื่องราวน่าติดตามด้วย ชอบค่าาา