3,000 KM around Iceland: Ep. 5 Eastern to Diamond Circle

ช่วยไลค์ช่วยแชร์ครับ

มาต่อกันจากทางใต้มาตะวันออกและขึ้นมาทางเหนือกันครับ เกินครึ่งเกาะแล้ว (ซักที)

 

หลุดจากโซนใต้ซักที ขับกันยาว ๆ ไปทางตะวันออกขึ้นทางเหนือของประเทศกันต่อ

🍦 ทางตะวันออกไม่ค่อยมีจุดแวะนัก เลยขับรถกันยาว ๆ ขึ้นทางเหนือกัน

🍦 ถ้าใช้ Google map จะพาเราขับไปทางถนนสาย 95 (ตามรูปล่าง) ซึ่งประหยัดเวลากว่าวิ่งถนนหลักสาย 1 เป็นชั่วโมง แต่ทางจะขึ้นเขา ติดหน้าผาและค่อนข้างแคบ (แต่ก็ขับสวนกันได้) ถ้าอากาศไม่ดี (หนาว มีเมฆ หรือฝนตก) นี่ค่อนข้างน่ากลัวครับ ตอนรีวิวเห็นหลายคนบ่น แต่ใจดีสู้เสือ พอขับขึ้นสูงเรื่อย ๆ เริ่มมีหมอก (หรือเมฆก็ไม่รู้) ฝนตกอีก ทำเอาอกสั่นขวัญแขวนไปพอสมควร ดังนั้นถ้ามีเวลา อากาศไม่ดีนัก ผมแนะนำให้วิ่งเส้นหลักสาย 1 ดีกว่าครับ

🍦 เมืองหลักที่พักแถบนี้ก็มี Egilssaoir, Myvatn และ Akureyri แล้วก็มีเมืองที่นิยมมาล่องเรือดูปลาวาฬอย่าง Husavik สะดวกที่ไหนเลือกปรับตามแพลนได้เลยครับ

 

 

 

Vestrahorn

⛄ เป็นภูเขายอดแหลม ๆ สองลูก ทำให้มีคนขนานนามว่าเหมือน batman (ดูยังไงก็ไม่เห็นเหมือน)

⛄ ที่นี่จะอยู่แถวเมือง Hofn ถ้าจะมาต้องเสียค่าเข้า โดยแวะจ่ายที่ Viking Cafe ครับ แล้วค่อยขับรถเข้ามาที่จุดชมวิว

 

เสียดายมีเมฆบังยอดทางด้านซ้าย

 

โซน Vestrahorn มีหลายวิวให้ถ่ายมาก ทั้ง foreground เป็นเนินทราย เนินหญ้า หาดทรายดำ ฯลฯ ถ้ามีเวลาลองเดินหาวิวที่ถ่ายแล้วเห็นเงาภูเขาสะท้อนน้ำดูครับ ผมไม่มีเวลาหา ไม่รู้อยู่ตรงไหน (แต่ควรขับรถหา แวะจอดตามจุดต่าง ๆ เพราะมันกว้างมาก)

 

Egilssaoir และ Seydisfjordur

⛄ เมืองเล็ก ๆ ทางตะวันออกที่หลายคนชอบมาแวะพัก เข้าซุปเปอร์ฯ และเป็นทางแยกไปเมือง Seydisfjordur ที่เป็นจุดถ่ายรูปถนนสายรุ้งทอดยาวไปยังโบสถ์ของเมือง แต่ผมเวลาไม่พอเลยตัดเมือง Seydisfjordur ออกไป ส่วน Egilssaoir ก็ขับผ่านไม่ได้แวะชื่นชมครับ

 

— ไม่มีรูป 😓 —

 

Borgarfjordur Eystri

⛄ ที่นี่เป็นจุดชมวิวนกพัฟฟินที่คนนิยมมา (น่าจะนิยมมากที่สุดมั้งครับ) เพราะเดินทางไม่ยากถึงจะไกลสุดแหลมทางตะวันออกเฉียงเหนือก็ตาม ถนนส่วนใหญ่จะลาดยาง ขับสบาย

⛄ จริง ๆ จุดชมนกที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์จะอยู่ที่ Westfjord ที่ Latrabjarg ครับ แต่เดินทางไกลกว่ามาก และทางลูกรังค่อนข้างขับยากกว่า

⛄ มีที่จอดรถ เดินไม่ไกล มีห้องน้ำด้วย เขาทำเป็นจุดชมวิวบนเนินให้เลย สามารถเดินดูได้สบาย ๆ และใกล้มาก ใช้เลนส์ระยะซัก 105 มม. ก็สามารถถ่ายตัวใกล้ ๆ ได้สบาย

 

กว่าจะไปถึงที่นี่พระอาทิตย์ก็เกือบตกละ มีท่าเรือเล็ก ๆ จุดชมนก จะเป็นเนินเขาทางด้านหลังครับ

 

มีอาคารเล็ก ๆ เป็นห้องน้ำสะอาด สะดวกดี

มีเยอะมาก ละลานตา มองไกล ๆ เห็นเป็นตุ่ม ๆ บนเนินเขา

 

เพิ่งรู้ว่าลอยน้ำได้ด้วย

 

น้อง ๆ กลับรัง กินอิ่มแปร้ ทำให้ถ่ายรูป activity ของพัฟฟินไม่ได้เท่าไร

 

อยากถ่ายตอนคาบปลาตัวเล็ก ๆ แต่คงกินอิ่มเตรียมนอนละ เห็นแต่คาบขนตัวเอง

 

เขาว่าทั้งชีวิตพัฟฟินจะมีคู่เดียว

 

Asinn-Brennistadir

⛄ ที่พักระหว่างทางไป Borgarfjordur Eystri อยู่ไม่ไกลจากเมือง Egilssaoir

⛄ จองจาก Airbnb ราคาไม่แพง เป็นบ้านที่อยู่กลางทุ่งหญ้า มีแกะอยู่รอบ ๆ เงียบสงบดีครับ บ้านดีมาก facility ครบครันสะดวกสบาย

 

ทางเข้าเวิ้งว้าง แต่หาไม่ยาก

 

เหมาทั้งหลัง สะดวกสะบาย

 

ตื่นเช้ามามีน้องแกะมาทักทาย (ในรูปเป็นแสงเช้าตอนตีสาม)

 

Diamond Circle

ออกจากที่พักกันช่วงเช้า ขับมาตามถนนหลักเข้าสู่โซนเหนือของไอซ์แลนด์ครับ โซนนี้เขาเรียกกันว่าเป็น “Diamond Circle” ซึ่ง route นี้ส่วนใหญ่จะเริ่มและจบที่เมืองใหญ่ทางเหนือ คือ Akureyri มีจุดแวะที่น่าสนใจหลายจุด แต่ผมไม่ได้แวะตามนี้หมด 

📸 Lake Myvatn รอบ ๆ มีที่เที่ยวหลายที่ครับ เช่น Krafla, nature bath, Hverir

📸 Dettifoss น้ำตกยักษ์ใหญ่และแรงมากกก

📸 Asbyrgi เป็น canyon รูปเกือกม้า ❌ ผมไม่ได้ไป

📸 Husavik ส่วนใหญ่คนที่มาที่เมืองนี้จะมาเพื่อนั่งเรือดูปลาวาฬ ที่เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็น “The whale-watching capital of Europe” เลย ❌ ผมไม่ได้ไป

📸 จุดแวะอื่น ๆ เช่น Godafoss, Eider Falls, Hljodaklettar ซึ่งส่วนใหญ่ผมไม่ได้ไปครับ ถ้าใครสนใจลองหาข้อมูลเพิ่มดูครับ

.

งั้นลองมาดูกันว่าโซนทางเหนือผมได้แวะที่ไหนกันบ้าง

 

เสียดายที่ต้องจำใจข้ามน้ำตก Hengifoss ไป เพราะเวลาไม่ทันจริงๆ

Hengifoss เป็นน้ำตกที่สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศ (ประมาณ 128 เมตร) แต่มีความต่างจากที่อื่นคือผนังหินของน้ำตกเป็นริ้วเส้นสีแดงบนผนังสีดำของหินบะซอลต์

⛄ ผมไม่ได้แวะที่นี่ ถ้าจะแวะต้องเผื่อเวลาเดินหน่อยครับ เห็นว่าต้องเดินประมาณ 2.5 กม. จากที่จอดรถ มีเดินขึ้นเขาบ้าง ระหว่างทางจะเจอน้ำตกเล็ก ๆ ชื่อ Litlanesfoss ก่อน

 

(ภาพจากอินเตอร์เนต)

Hengifoss

 

Studlagil Canyon

⛄ ตอนแรกที่นี่ไม่ได้อยู่ในแพลน แต่เพื่อนไปเห็นรูปในอินสตาแกรม เลยหาดูว่าอยู่ที่ไหน ก็เลยได้มาครับ และก็ไม่ผิดหวังมันสวยอลังการมาก

⛄ ที่นี่เป็น canyon ที่ผนังหินทั้งสองข้างเป็นแท่งหินบะซอลต์เหมือนกับที่เราเห็นกันมาจาก Reynisfjara beach แต่มันเยอะและอลังการกว่ามากๆ แม่น้ำที่ไหลผ่านก็สีฟ้าเขียวสวยมาก

จะมีจุดให้ชมวิว 2 จุดหลัก ๆ จุดแรกจะเป็นฝั่งตะวันออกจะเป็น viewpoint มุมสูงให้ปักหมุดหาพิกัดจอดรถว่า Studlagil viewpoint จุดนี้เดินลงไปด้านล่าง canyon ไม่ได้

จุดที่สองที่นิยมกันเพราะเดินลงไปด้านล่างของ canyon ได้ และถ่ายรูปสวยมาก จะมีจุดจอดอยู่ 2 จุด ตามรูปด้านล่างครับ จุดแรกคือ ที่จอดรถฝั่งตะวันออกที่สะพานเล็กๆ จุดนี้เดินไกลมากกกก เป็นชั่วโมง แนะนำให้ไปจอดจุดที่ 2 ครับ ให้ขับเลยจุดจอดแรกขึ้นสะพานข้ามมาฝั่งตะวันตก แล้วเลี้ยวขวา (ถนนลูกรัง เลนเดียวค่อนข้างแคบ แต่ถ้ามีรถสวน อาจพอเบี่ยงได้บางช่วง ขับระวังครับ) ให้ปักหมุดพิกัดว่า Parkplatz Klaustrusel จากจุดนี้เดินไม่ไกลมากครับ ประมาณ 30-40 นาที (one-way ทางเดินดี ขึ้นเนินเล็กน้อยไม่เหนื่อย)

⛄ เริ่มต้น trail ฝั่ง west เราจะเจอน้ำตก Studlafoss ก่อน ซึ่งดู ๆ ก็คล้าย ๆ Svartifoss จิ๋ว เพราะพื้นหินหลังน้ำตกจะเป็นแท่งหินบะซอลต์เหมือนกัน (แต่ Svartifoss สวยกว่ามาก ๆ)

 

 

จุดชมวิวมุมสูง (ฝั่งตะวันออก) ทางบันไดดี แต่เหนื่อยเอาเรื่อง

 

มองเห็นทางเดินฝั่งตะวันตก

 

ขับต่อมาถึงที่จอดรถอีกจุดตรงสะพาน ให้ขับข้ามสะพานไปแล้วเลี้ยงขวา (ปักหมุดตามพิกัดที่บอกด้านบนเลยครับ) จะเดินใกล้กว่า

 

เริ่มเดินก็เจอน้ำตกเล็ก ๆ Studlafoss

 

ทางเดินราบ ๆ สบาย ๆ กับวิวแคนยอนสวย ๆ

 

ผนังแคนยอนเป็นแท่งหินบะซอลต์สวยมาก ตัดกับสีน้ำเทอร์ควอยซ์

 

ถึงจุดชมวิวปลายทาง สุดมากกก ถ้าขวาจะเป็นจุดชมวิวฝั่งตะวันออกที่เราเพิ่งแวะกันไปก่อนหน้านี้ จะเห็นว่ามันคุ้มค่าเดินฝั่งตะวันตกมากกก อย่าพลาดครับ

 

Dettifoss และ Sellfoss

Dettifoss ได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่แรงที่สุด (most powerful) ของไอซ์แลนด์ และเป็นที่สองของยุโรป สามารถมาเที่ยวได้ทั้งสองฝั่งของน้ำตก คือ ฝั่งตะวันตก และ ตะวันออก

⛄ ผมเลือกไปฝั่ง west เพราะดูถนนลาดยางวิ่งสบายกว่า ส่วนฝั่ง east จะเป็นถนนลูกรังเป็นหลุมบ่อขับยากกว่าหน่อย (แต่จริงๆ ตอนแรกผมก็ไม่รู้ว่าวิวมันต่างกันไหมระหว่างสองฝั่ง เพราะลืมหาข้อมูลมา) แต่พอกลับมาเห็นรูปของฝั่ง east มันเข้าไปใกล้น้ำตกได้มากกว่า ก็เริ่มเสียดายครับ 😓 ลองหารูปวิวและสภาพถนนของแต่ละฝั่งมาให้ดูเพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจกันครับ

⛄ จากจุดจอดรถฝั่ง west ระหว่างทางไป Dettifoss จะมีทางแยกให้เดินไปที่ Selfoss ซึ่งเป็นน้ำตกใหญ่ที่อยู่ใกล้ ๆ กัน ถ้าไปฝั่ง east ก็สามารถเดินต่อไปได้เช่นกัน และเห็นว่าฝั่ง east จะดู Selfoss ได้สวยและใกล้กว่ามาก ๆ ด้วยครับ

 

 

เปรียบเทียบสภาพถนนและวิวจากทั้งสองฝั่ง (ภาพจากอินเตอร์เนต)

 

ที่จอดรถฝั่ง west side

 

จากที่จอดรถ เห็นไอน้ำฟุ้ง ๆ บอกได้เลยว่าน้ำแรงมาก ๆ

 

ทางเดินสบาย ๆ

 

ฝั่งนี้ทำจุดชมวิวเป็นหลักแหล่ง เดินสบาย แต่ฝั่งตรงข้ามจะใกล้ชิดกว่า

 

สังเกตคนที่ไปฝั่ง east ตัวจิ๋วมาก บอกถึงความยิ่งใหญ่อลังการของน้ำตกนี้ได้เป็นอย่างดี (เสียดายน่าจะไปฝั่งนั้น 😭)

 

 

จาก Dettifoss สามารถเดินแยกไป Sellfoss ได้ครับ แต่เรารีบ ๆ เลยไม่ได้เดินไป แต่ก็ยังได้เห็นวิวไกล ๆ

 

 

 

 

Krafla และ Myvatn

⛄ Krafla อยู่ระหว่างทางขับไปยังเมือง Myvatn ซึ่งเมืองนี้มี Nature bath ที่ถ้ามีเวลาหรือพักเมืองนี้ ไม่ควรพลาดเลย

⛄ Krafla เป็นทะเลสาบบนปากปล่องภูเขาไฟที่ดับแล้ว ที่นี่ไม่มีอะไร จอดรถแล้วเดินลงมาดูแค่นั้น

 

 

Hverir

เป็นบ่อโคลนเดือด ที่นี่แค่ขับผ่านเฉย ๆ ไม่ได้ลงไปเพราะเวลาไม่ทัน

 

 

Godafoss

⛄ เป็นน้ำตกใหญ่เหมือนกัน แต่อลังการน้อยกว่า Gullfoss กับ Dettifoss ความเห็นผมว่า ถ้าเวลาไม่พอจริง ๆ ก็ข้ามที่นี่ได้ครับ

 

แต่วิวไกล ๆ ที่เห็นตอนขับรถ นี่มันช่างดึงดูด สวยจริง ๆ

 

 

 

Akureyri

⛄ เป็นเมืองใหญ่ทางเหนือของไอซ์แลนด์ ส่วนใหญ่จะมาแวะพักที่นี่ก่อนจะเดินทางกันต่อ

⛄ เราอยู่ที่เมืองนี้ไม่นาน เพราะมาถึงก็เที่ยงคืนแล้ว ร้านรวงปิดหมด ตอนเช้าก็รีบออกเพราะจะต้องไปที่ Westfjord ต่อ (ซึ่งขับรถนานมากเลยอยู่ชิล ๆ ชมเมืองนี้นานไม่ได้)

 

วิวเมืองจากอีกฝั่งแม่น้ำ

 

เมืองที่พักแถว ๆ ท่าเรือ

 

ไฟแดงเป็นรูปหัวใจด้วย น่ารักดี

 

 

ใกล้จะครบเกาะแล้วววว ฝั่งตะวันตกยังมีอีกหลายที่ให้แวะครับ รอติดตามตอนสุดท้ายกันต่อครับ

 

 

About Breathe My World 29 Articles
A man who love travelling the world.