“See Angkor Wat and Die…”
ได้ยินประโยคนี้มาหลายครั้งจนทำให้อยากมาเห็น 1 ในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกซักครั้ง เดินทางไม่ยากอยู่ใกล้ประเทศไทยมาก แต่…มาแล้วอย่าเพิ่งตายซะนะครับเรียกว่า “ต่อลมหายใจ” ดีกว่าโลกนี้ยังมีอีกหลายอย่างให้ชื่นชมและเดินทางไปค้นหาครับ
ย้อนความตอนแรก เกร็ดเล็กๆ น้อยๆ >>> คลิ๊ก!
ที่เที่ยวอื่นๆ ในเสียมเรียบ >>> คลิ๊ก!
สารบัญ
5 ความมหัศจรรย์ กับ Angkor Wat
(1) พลังศรัทธาสู่ความยิ่งใหญ่
นครวัด (ปราสาทวิษณุโลก) สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าสูริยวรมันที่ 2 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 1656 เพื่อถวายแด่พระวิษณุ มีความกว้าง 1,300 เมตรและยาว 1,500 เมตร (ประมาณ 1.9 ล้านตารางเมตร) มีคูน้ำ ขนาดกว้าง 190 เมตร ยาวด้านละ 1,900 เมตร ล้อมรอบทั้ง 4 ด้าน
ที่ว่ามหัศจรรย์เพราะสร้างด้วยหินจากเขาพนมกุเลนซึ่งห่างออกไปถึง 50 กิโลเมตร ต้องใช้แรงงานกว่าแสนคนและช้างหลายพันเชือกในการสร้างปราสาทหินแห่งนี้ ถ้าไม่มีความศรัทธาคงสร้างกันไม่ได้ขนาดนี้
มีพระปรางค์องค์ใหญ่อยู่ตรงกลางเหมือนเป็นยอดเขาพระสุเมรุอันเป็นศูนย์กลางของจักรวาล ล้อมด้วยพระปรางค์องค์เล็กอีก 4 องค์
(2) ภาพสลักอันวิจิตร
รอบๆ กำแพงชั้นนอกของปราสาทนครวัด มีภาพสลักนูนต่ำที่สวยงามและยาวมาก เป็นเรื่องราวของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 และรามเกียรติ์ นอกจากนี้ยังมีภาพกวนเกษียรสมุทรอันมีชื่อเสียง ซึ่งมีความยาวกว่า 50 เมตร (ภาพด้านล่างเอามาจากอินเตอร์เนต)
ภาพสลักอื่นๆ ที่ยังหลงเหลือก็สวยงามไม่แพ้กัน
(3) อัปสรสวรรค์
นางอัปสร หรือ อัปสรา ถูกสลักอยู่บนผนังของปราสาท มีพระพักตร์เหลี่ยม ทรงกระบังหน้า ด้านบนมีศิราภรณ์ประดับด้วยช่อดอกไม้ 3 แถว รูปสลักของนางอัปสร ถือว่าเป็นอีกไฮไลท์ของนครวัดที่ทำให้เดินดูได้อย่างเพลินตาเพลินใจ เพราะมีกว่า 1,600 รูปและแต่ละรูปยังมีใบหน้าอ่อนช้อย กิริยาท่าทางและเสื้อผ้าอาภรณ์ไม่ซ้ำแบบกันเลย
(4) ยลความงดงามยามเช้า
มานครวัด ถ้าไม่ได้ชมแสงแรกของวัน ถือว่าทริปยังไม่สมบูรณ์ครับ ที่นี่ถือเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดจุดหนึ่งของโลกเลยทีเดียว อยากได้ทำเลดีต้องมาเช้าๆ ครับ (ก่อนตีห้า) เลือกมุมจากบ่อด้านซ้าย ผมว่าสวยที่สุด แสงที่ได้ในแต่ละวันไม่เหมือนกันแล้วแต่ดวงด้วย
(5) สว่างไสวยามบ่าย
ช่วงเวลาถ่ายรูปนครวัดที่สวยที่สุด (ถ้าไม่นับตอนพระอาทิตย์ขึ้น) คือช่วงบ่ายไปครับ เพราะแสงอาทิตย์จะตกกระทบพอดี ถ้ามาช่วงเช้าจะย้อนแสงเพราะตัวพระปราสาทหันหน้าไปทางตะวันตก
![DSCF9211](http://breathemyworld.com/wp-content/uploads/2018/01/dscf9211.jpg)
บรรณาลัย (ห้องสมุด) ด้านหน้าของนครวัด เดิมเป็นที่เก็บพระคัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ์ของศาสนา
สามารถปีนบันไดขึ้นไปยังพระปรางค์องค์กลางได้ครับ
![DSCF9136](http://breathemyworld.com/wp-content/uploads/2018/01/dscf9136.jpg)
Angkor National Museum
เขารวบรวมสิ่งที่ขุดค้นพบทั้งหลายไว้ที่นี่ครับ แบ่งเป็นห้องๆ ให้เดินดูได้อย่างมีระเบียบ แนะนำว่า “ต้อง” มาครับ เพราะที่นครวัดแทบไม่เหลืออะไรให้ดูแล้วนอกจากภาพสลักที่ผนังและตัวพระปรางค์ มีทั้งหมด 9 ห้อง ได้แก่ ห้องดูวิดิทัศน์เกริ่นนำก่อนเดินชม (มีภาษาไทยด้วย), exclusive gallery และ gallery A ถึง G
ภายในห้ามถ่ายรูปครับ รูปด้านล่างเอามาจากอินเตอร์เนต ถ้าสนใจข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ใน เว็บไซด์ของพิพิธภัณฑ์ ครับ
Phnom Bakheng
ได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่นครวัด ต้องไม่พลาดชมพระอาทิตย์ตกที่ “พนมบาเค็ง” ครับ เพราะ “เขาว่า” ว่าเป็นที่พระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดในกัมพูชา…แต่…ผมว่าไม่จริงครับ ไม่มีอะไรเลย ต้องรีบมาต่อคิวตั้งแต่เนิ่นๆ อีก เพราะด้านบนเขาจำกัดให้คนไม่เกิน 300 คน ดังนั้นต้องต่อแถวรอๆๆๆ ครับ ผมไปสี่โมงนิดๆ รอไปชั่วโมงครึ่ง
ขึ้นไปพระอาทิตย์ก็จะลับขอบฟ้าพอดี แล้วก็ไม่สวยเท่าไรด้วย
เพื่อนร่วมทริปของเราเลยลงความเห็นว่าที่นี่ “พลาดได้ไม่เป็นไร” (ฮา)
แต่วิวที่สวยน่าจะเป็นวิวที่มองเห็นนครวัดอยู่ “ลิบๆ” ตอนนี้เกือบจะไม่เห็นแล้วครับ ต้นไม้โตขึ้นมาบังจะมิดละ (อ่านรีวิวของท่านอื่น เมื่อสองปีก่อนยังเห็นเต็มๆ อยู่เลย)
![DSCF9247.jpg](http://breathemyworld.com/wp-content/uploads/2018/01/dscf9247.jpg)
Ta Prohm
ปราสาทตาพรหม สร้างโดยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ใน พ.ศ. 1729 เพื่ออุทิศถวายพระราชมารดา มีลักษณะเด่น คือ ปกคลุมไปด้วยต้นไม้และรากไม้ขนาดใหญ่ ซึ่งต้นเหล่านี้ก็คือ ต้นสปง นั่นเอง ที่นี่เป็นที่รู้จักของชาวโลกมากขึ้น เมื่อกลายเป็นฉากของหนังฮอลิวู้ดชื่อดังอย่าง Tomb Raider
![DSCF9581.jpg](http://breathemyworld.com/wp-content/uploads/2018/01/dscf9581-1.jpg)
ที่นี่ทางเข้าหลักอยู่ที่ east gate แต่ออกได้ 2 ทางครับ คือ west gate หรือเดินย้อนเป็นสี่เหลี่ยมมาออกที่ east gate ประตูเดิมก็ได้ ดังนั้นนัดเพื่อนหรือคนขับรถดีๆ ครับว่าจะออกประตูไหน (ผมคลาดกันมาแล้ว นั่งรอคนละที่)
รากอันใหญ่เบิ้มของต้นสปงชอนไชไปทุกอณูของตัวปราสาท สร้างความงดงามทางธรรมชาติได้มากโขทีเดียวครับ มาดูรูปกันเลยครับ ตามแผนที่ด้านบนตรงไหนเป็นอะไรไม่รู้เหมือนกันครับมันใหญ่มาก
![DSCF9610-2](http://breathemyworld.com/wp-content/uploads/2018/01/dscf9610-2-1.jpg)
ที่นี่เขาไม่ได้บูรณะให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์นัก เขาต้ังใจให้อยู่ในสภาพที่มีต้นไม้รากไม้ปกคลุมอย่างที่เห็น เป็นการอนุรักษ์ธรรมชาติไปในตัว
![DSCF9712](http://breathemyworld.com/wp-content/uploads/2018/01/dscf9712-1.jpg)
Angkor Thom
นครธม เป็น “เมือง” รูปสี่เหลี่ยมจตุรัสที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 มีปราสาทบายน (Bayon temple) เป็นศูนย์กลาง เมืองนี้ยาวด้านละ 3 กิโลเมตร มีกำแพงล้อมรอบ และมีประตูอยู่ในแต่ละด้าน
![Angkor thom map.jpg](http://breathemyworld.com/wp-content/uploads/2018/01/angkor-thom-map.jpg)
Angkor Thom ฝั่ง South Gate
แต่ละซุ้มประตูจะสร้างเป็นยอดรูปพรหมสี่หน้า 3 ยอด มีรูปสลักเทวดากับอสูรกำลังฉุดลากพญานาคขนาดใหญ่อยู่สองข้างทางเข้าประตูข้างละ 54 รูป
Bayon Temple
ปราสาทบายน สร้างขึ้นโดยพระเจ้าชัยวรรมันที่ 7 เมื่อ 800 ปีที่ผ่านมา ปราสาทแห่งนี้มีลักษณะเฉพาะตัวคือ ประกอบด้วยพระปรางค์ใหญ่น้อย 54 องค์ โดยแต่ละพระปรางค์สลักเป็นรูปใบหน้าทั้ง 4 ทิศ รวม 216 หน้า เชื่อว่าเป็นใบหน้าของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7
![DSCF9513-2](http://breathemyworld.com/wp-content/uploads/2018/01/dscf9513-2.jpg)
ที่นี่ก็มีภาพสลักบนฝาผนังที่สวยงามเช่นเดียวกันกับที่อื่นๆ แต่นางอัปสรจะแตกต่างไปจากที่เห็นที่นครวัด
Baphoun Temple
ปราสาทบาปวน (Baphuoun) เป็นปราสาทขอมมีรูปทรงคล้ายปิระมิด เคยเป็นที่ประดิษฐานศิวลึงค์ทองคำที่ปัจจุบันได้สูญหายไปนานมากแล้ว
![DSCF9526](http://breathemyworld.com/wp-content/uploads/2018/01/dscf9526-1.jpg)
Terrace of the Elephants
Terrace of the Elephants เป็นส่วนหนึ่งของกำแพงนครธม มีความยาวประมาณ 350 เมตร เดินต่อไปจากที่นี่ก็จะเป็น Terrace of the Leper King ซึ่งอยู่ติดๆ กันครับ
![DSCF9557](http://breathemyworld.com/wp-content/uploads/2018/01/dscf9557-1.jpg)
![Leper king 2](http://breathemyworld.com/wp-content/uploads/2018/01/leper-king-2-1.jpg)
Banteay Srei
ปราสาทบันทายสรี หรือ “ป้อมแห่งสตรี” ขนาดเล็กนี้แกะสลักอย่างประณีตบนหินทรายสีชมพู
และยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ นับเป็นโบราณสถานของเขมรที่งดงามและสมบูรณ์ที่สุด
Phnom Kulen National Park
อุทยานแห่งชาติพนมกุเลน อยู่บริเวณภูเขาพนมกุเลน มีจุดท่องเที่ยวหลักๆ 3 จุด คือ Kbal Spean, วัด Preah Ang Thom และน้ำตกครับ อยู่ห่างออกไปจากตัวเมืองประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า
Kbal Spean (River of thousand Lingas)
กบาลสะเปียน หรือ “สายธารแห่งศิวลึงค์” เป็นลำธารที่มีการสลักรูปของโยนี (สัญลักษณ์ของเพศหญิง) และศิวลึงค์ (เพศชาย) จำนวนนับพันอันที่พื้นหินใต้ลำธาร เชื่อว่าทำเพื่อประกอบพิธีการทำน้ำศักดิ์สิทธิ์
ภาพที่คิด…(เป็นภาพจากอินเตอร์เนตที่เห็น)
ความเป็นจริง…
![DSCF9755](http://breathemyworld.com/wp-content/uploads/2018/01/dscf9755-1.jpg)
![DSCF9786](http://breathemyworld.com/wp-content/uploads/2018/01/dscf9786-1.jpg)
![DSCF9801](http://breathemyworld.com/wp-content/uploads/2018/01/dscf9801-1.jpg)
![DSCF9806](http://breathemyworld.com/wp-content/uploads/2018/01/dscf9806-1.jpg)
ไม่รู้เพราะปริมาณน้ำมากหรือเปล่า เลยไม่ค่อยเห็นอะไรเลย เพ่งแล้วเพ่งอีกก็เห็นแต่ศิวลึงค์อันสั้นๆ นอกนั้นช่วยกันมโนล้วนๆ ว่านั่นไงมือ นั่นไงหน้า! นั่นไงมือ! (ฮา) กลับมาอ่านรีวิวเพิ่มเติมของหลายๆ คนเลยคิดว่าคนขับรถไม่ได้พาไปจุดที่เห็นเยอะๆ ซึ่งอยู่อีกที่หนึ่งของแม่น้ำซึ่งต้องเดินขึ้นเขาไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร (จุดที่เขาพามาจะอยู่ใกล้กับ Phnom Kulen Pagoda และน้ำตกที่เป็นจุดหมายต่อไป)
ที่ปลายทาง จะมีต้นน้ำ ซึ่งจะเห็นน้ำผุดออกมาจากพื้นทรายด้านล่าง น้ำใสมากๆ เขาว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ ดื่มได้
Phnom Kulen Pagoda (Preah Ang Thom)
เป็นที่ประดิษฐานของพระนอนที่มีส่วนสูงถึง 8 เมตร ซึ่งแกะสลักลงไปในหินทั้งก้อน
ต้องปีนกันนิดนึง แต่ไม่สูงมาก ยังไม่ทันเหนื่อยก็ถึงละครับ
น้ำตกในอุทยานพนมกุเลน
รถมาจอดที่ชั้นบนของน้ำตก
และต้องเดินลงมาดูด้านล่าง ขนาดใหญ่และน้ำแรงมาก ละอองน้ำฟุ้งกระจายไปทั่ว
เป็นโปรแกรมสามวันที่กำลังพอดีครับ แต่เหนื่อย (ฮา) เพราะมันร้อนมากและเดินเยอะ ยังไงก็ตามถือว่าคุ้มครับกับสิ่งที่ได้เห็น