ฝรั่งเศสเมืองรอง 2018: Colmar

ช่วยไลค์ช่วยแชร์ครับ

Colmar (กอลมาร์) เป็นอีกเมืองเล็กๆ ในแคว้น Alsace เป็นที่รู้จักรองลงมาจาก Strasbourg ที่ไปกันเมื่อโพสต์ก่อน รับรองจะหลงสเน่ห์เมืองนี้ได้ไม่ยากเลย

 

กระทู้เมืองรองอื่นๆ

>>> ฝรั่งเศสเมืองรอง 2018: Strasbourg <<<

>>> ฝรั่งเศสเมืองรอง 2018: Mont Saint-Michel <<<

 

หลังจากไป Strasbourg เมืองหลวงแห่งแคว้น Alsace กันมาแล้ว ก็นั่งรถไฟต่อมาที่เมือง Colmar ครับ เมืองนี้เหมือนเป็นศูนย์กลางที่จะออกไปเที่ยวเมืองและหมู่บ้านเล็กๆ รายรอบได้ (ตามรูปด้านล่าง) เพราะขับรถไปแป๊บเดียวแบบไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็ถึง แต่เสียดายนิดนึงถ้าจะไปต่อด้วยรถสาธารณะมันจะไม่ค่อยจะสะดวกเท่าไร เพราะรอบรถบัสค่อนข้างน้อย (ลิงค์รถบัส) ผมเลยไม่ได้ไปเพราะรอบนี้ไม่ได้ขับรถ ถ้าดูจากรูปในอินเตอร์เนตแล้วก็อาจจะคิดว่าบ้านเรือนก็ดูเหมือนๆ กันไปที่เดียวก็พอมั้ง (ปลอบใจตัวเอง) แต่ถ้ามีโอกาสได้ไปก็ดีไม่น้อย

เมืองรอบๆ Colmar
เมืองต่างๆ ในแคว้น Alsace

 

Colmar

เกร็ดเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับ Colmar

  • อาคารบ้านเรือนมีเอกลักษณ์แบบเยอรมันที่เขาเรียกว่า half-timbered house หลากสีสัน
  • ผนังอาคารเป็นลายกรอบไม้เพราะเห็นว่าเขาประหยัดไม้ในการสร้างบ้าน เลยทำแค่กรอบและผนังก็ก่อด้วยวัสดุอื่น เช่น ปูน
  • นาย Frederic Auguste Bartholdi คนออกแบบเทพีเสรีภาพที่เป็นสัญลักษณ์ของสหรัฐอเมริกาเกิดที่นี่
  • มีเทพีเสรีภาพจำลองด้วยนะ อยู่แถววงเวียนใกล้ๆ สนามบิน
  • ใจกลางแต่ละจตุรัสมักมีน้ำพุและรูปสลัก โดยส่วนใหญ่จะถูกออกแบบและสลักโดย Bartholdi
  • อาคารบ้านเรือนของเมืองนี้เป็นต้นแบบของการ์ตูนดัง เรื่อง Howl’s Moving Castle ของ Studio Ghibli
  • เป็นเส้นทางการชิมไวนที่มีชื่อเสียงอีกที่นึงที่นักชิมไวน์ไม่ควรพลาด
  • มีแม่น้ำ Lauch ไหลผ่านพร้อมวิวเมืองเก่าที่มีสีสันสองข้างทาง ทำให้อารมณ์คล้ายๆ เวนิสของอิตาลี จึงเป็นที่มาของชื่อ “Little Venice”
  • ร้านค้า ร้านอาหารปิดเร็ว ร้านค้านี่หกโมงก็ไปหมดละ ส่วนร้านอาหารเปิดประมาณทุ่มนึง ปิดเร็วมากก สามทุ่มก็ปิดหมดแล้ว ถ้าอยากลิ้มลองร้านดังที่เขาแนะนำกันอย่าลืมจองล่วงหน้าครับ ไม่งั้นอดกิน
  • เป็นเมืองที่มาได้ทั้งปี โดยเฉพาะฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน สีสันสวยงามด้วยอาคารบ้านเรือนและดอกไม้เต็มเมือง แต่ฤดูหนาวก็มี Christmas Market ที่มีชื่อเสียงและคึกคัก (ช่วงปลายเดือน พ.ย. ถึงปลาย ธ.ค.)
  • แทบไม่มีโรงแรม brand ดังๆ เลย ส่วนใหญ่เป็นบ้านที่แบ่งให้เช่าหรือเป็นอพาร์ทเม้นต์ เวลาจองอย่าลืมบอกเวลาถึงด้วยเพราะบางที่มันไม่มีเคาน์เตอร์ เขาต้องเอากุญแจมาให้เรา และที่สำคัญมักไม่มีลิฟต์

แผนที่จุดเที่ยวต่างๆ ใน Colmar

สถานีรถไฟ

การเดินทางในเมือง

  • เหมือน Strasbourg เลยครับ สะดวกสุด ก็ เดิน เดิน เดิน
  • ขี่จักรยานก็ได้ คนที่นี่ขี่จักรยานเยอะมาก
  • ถ้าชอบรถนำเที่ยว ก็มีรถไฟนำเที่ยว (mini train) เช่นเดียวกัน
Mini train
  • ได้ชื่อว่า “Little Venice” แล้ว จะไม่มีเรือได้ยังไง ที่นี่ก็มีเรือครับ แต่ไม่ได้พาย จะคล้ายๆ เรือหางยาวบ้านเรา แต่วิ่งช้าๆ มีคนบรรยายนำเที่ยวด้วย
เรือนำเที่ยว คนละ 7 ยูโร


Little Venice (Petite Venise)

โซนเวนิสน้อย หรือ Little Venice ก็เป็นจุดไฮไลท์ของที่นี่เช่นเดียวกับ Little France ใน Strasbourg เป็นย่านเมืองเก่าที่มีแม่น้ำ Lauch ไหลผ่าน จากสถานีรถไฟเดินมาประมาณกิโลนึงก็เริ่มเข้าย่านนี้โดยผ่านจตุรัสเล็กๆ มีน้ำพุอยู่ตรงกลาง คือ Roesselmann Fountain

Roesselmann Fountain

ที่ Colmar นี้เป็นเมืองเกิดของศิลปินเอกที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง คือ Frederic Auguste Bartholdi ผู้เป็นคนออกแบบเทพีเสรีภาพที่ฝรั่งเศสได้มอบให้แก่สหรัฐฯ และตั้งตระหง่านอยู่ที่กรุงนิวยอร์คจนปัจจุบัน ที่เมืองนี้จึงมีรูปสลักที่เป็นฝีมือของเขาอยู่หลายที่ รูปสลักที่น้ำพุแห่งนี้ก็เป็นอีกอันนึงที่เป็นฝีมือของเขา

เดินต่อมาอีกนิดก็เริ่มเห็นสีสันของเมืองเก่าโผล่ขึ้นมาสะดุดสายตา (รูปล่าง) อารมณ์คล้ายๆ เดินผ่านซอกผาแล้วเห็น The Treasury ที่เพตรายังไงยังงั้น (ฮา) มันว้าวมาก

อาคารแบบ half-timbered house เรียงรายกันเป็นแถว ถูกแปลงให้เป็นร้านอาหาร โรงแรม ร้านขายของที่ระลึก

แม่น้ำ Lauch

 

Covered Market

มาถึงต้องอย่าลืมแวะตลาดในร่มที่มีชื่อของเมืองนี้ อยู่ติดๆ กับ Little Venice ข้างในมีร้านค้ามากมาย ทั้งของสด ของหวาน กาแฟ ผลไม้ ถึงไม่ซื้อกินก็เป็นอาหารตาได้อย่างดีเลย

ภายในมีร้านมากมาย หลายร้านเปิดแต่เช้า แวะมากินเป็นอาหารเช้าได้

ชุดของหุ่นนี่แนวมาก

Old town

เดินถัดมาจะเป็นโซนเมืองเก่าซึ่งอาคารเก่าหลายแห่งถูกขึ้นทะเบียนไว้เป็นตึกอนุรักษ์ของฝรั่งเศสด้วย ในแถบ Fishmonger District มีบ้านเรือนเก่าๆ สีออกพาสเทลคลาสสิคมาก

มีผนังเก๋ๆ ให้ถ่ายรูปได้หลายที่เลย

มีจตุรัสเล็กๆ มีน้ำพุ Schwendi Fountain อยู่ และแน่นอนว่ารูปสลักก็เป็นฝีมือของ Bartholdi เช่นเคย

 

ในเขตเมืองเก่ามีอาคารหลายจุดที่น่าจะแวะดู เพราะมีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่างเช่น…

Koifhus (The former customs house)

อดีตเป็นตึกกรมศุลกากรถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1480 นับเป็นตึกที่มีความเก่าแก่ที่สุดตึกหนึ่งในเมือง

 

Bartholdi Museum

เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงผลงานและชีวิตของศิลปินเอกของเมือง คือ Frederic Auguste Bartholdi

 

Pfister House

สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1537 โดยมหาเศรษฐี  Ludwig Scherer ด้วยสถาปัตยกรรมแบบ Renaissance และตึกนี้เองได้เป็นต้นแบบของ Howl’s Moving Castle ในหนังดังของ Studio Ghibli ด้วย

 

La Maison des Tetes (House of Heads)

เป็นอาคารเก่าแก่อีกที่หนึ่งที่มีเอกลักษณ์ คือ มีรูปสลักศีรษะทั้งหมด 111 หัว ตกแต่งอยู่ที่ระเบียงและวงกบ ปัจจุบันถูกแปลงให้เป็นโรงแรมห้าดาวและภัตตาคาร

 

Saint Martin Church

โบสถ์ประจำเมือง


Getting Around

เมืองเล็กๆ เดินเรื่อยๆ จริงๆ 3-4 ชั่วโมงก็ทั่วแล้วครับ แต่ถ้าอยากดื่มด่ำบรรยากาศลองค้างที่นี่ซักคืนก็ไม่เลวครับ

 

Unterlinden Museum

เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะอยู่ขอบๆ ของ Old town


เมืองนี้ว่าสวยแล้วเมืองรอบๆ อย่าง Ribeauville, Riquewihr นี่สวยกว่าอีก เสียดายที่ไม่ได้ไป ถ้าใครมีโอกาสได้ไปเอามาแบ่งปันเล่าสู่กันฟังได้ครับ

 

 

About Breathe My World 68 Articles
A man who love travelling the world.